fbpx

ตลท.- EXIM BANK เอ็มโอยู แลกเปลี่ยนข้อมูล ESG ส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ตลท.-EXIM BANK ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล ESG เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนระบบนิเวศสำหรับการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) รวมถึงข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผ่านระบบ ESG Data Platform และสนับสนุนระบบ SET Carbon สำหรับลูกค้าของธนาคารให้มีการดำเนินงานตามเป้าหมายความยั่งยืน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และ EXIM BANK จะร่วมกันพัฒนาสินเชื่อจากการใช้ข้อมูลด้าน ESG ประกอบการพิจารณา ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 และเริ่มให้บริการในปี 2568
 
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นถึงความต้องการข้อมูลด้าน ESG ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มผู้ลงทุน และสถาบันการเงินที่นำข้อมูล ESG ไปใช้ประกอบการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มรองรับข้อมูลESG ซึ่งปัจจุบันมีระบบจัดการข้อมูลด้าน ESG เช่นระบบ SET ESG Data Platform ที่ให้บริการข้อมูลตั้งแต่ปี 2566 โดยรวบรวมข้อมูลด้าน ESG ของ บจ. กว่า 700 บริษัท อีกทั้งพัฒนาระบบ SET Carbon ที่อยู่ระหว่างการทดลองใช้ระบบโดย บจ. นำร่องในปี 2567 และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้ บจ. และบริษัทในห่วงโซ่อุปทานสามารถจัดทำและทวนสอบข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพบนระบบงานเดียว นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนและนำข้อมูลไปใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ข้อมูล ESG เพื่อการระดมทุนและการลงทุน ความร่วมมือกับ EXIM BANK ครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือทางการเงินมากยิ่งขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบนิเวศทางการเงินที่ยั่งยืนของประเทศไทย


ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ภาคการเงินการธนาคารมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างสมดุล ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกในปัจจุบัน ธนาคารทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารเพื่อการพัฒนา (Development Banks) มีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนให้ภาคธุรกิจปรับตัวและเติบโตได้มากถึง 1 ใน 3 ของมูลค่า Climate Finance ของโลก EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาสีเขียวของประเทศไทย (Green Development Bank) ได้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) ที่สนับสนุนโครงการหรือธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยใช้ฐานข้อมูลที่ได้มาตรฐานสากลมาเป็น Input ในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเงินการธนาคารของไทยไปสู่ความยั่งยืน ช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) มากยิ่งขึ้น ข้อมูลด้าน ESG จากตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้ธนาคารดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจได้รับการส่งเสริมให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และสิทธิประโยชน์ทางการเงินต่าง ๆ ตลอดจนการเข้าร่วมอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของการส่งออกสีเขียว (Green Export Supply Chain) สามารถพัฒนาการจัดทำรายงานและวางแผนเพื่อการจัดการก๊าซเรือนกระจกได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ พร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
 
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ EXIM BANK จะเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการและเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินลงทุนในการสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืน และร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน บริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสียนอกจากนี้ จะต่อยอดและพัฒนาระบบนิเวศด้านความยั่งยืนเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินงาน ปรับปรุง พัฒนา หรือวางแผนการจัดการด้านการลงทุนในกิจการ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและเป้าหมายทางธุรกิจ โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
 
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายพัฒนาบริการด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โทร 0 2009 9894 หรือ 0 2009 9887 หรือฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร 0 2169 9999.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน