17 ก.ย. – สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก
นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ทีมกรุ๊ป เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อตัวของ “หย่อมความกดอากาศต่ำ” กำลังแรงขึ้น ในพื้นที่ตอนเหนือของฟิลิปปินส์ และยังไม่ได้ตั้งชื่อ จึงเรียกว่าเป็นพายุหมายเลข 15 ช่วงแรกคาดการณ์ว่าพายุหมายเลข 15 จะตามรอยพายุยางิ แต่มวลอากาศเย็น ความกดอากาศสูงจากจีนดันลงเล็กน้อย จึงทำให้พายุลูกนี้เปลี่ยนทิศทางลงมาตอนล่าง โดยจะไปขึ้นฝั่งที่ดานัง เวียดนาม จากเดิมจะเข้าไหหลำ ฮานอย คาดว่าวันที่ 18 หรือ 19 ก.ย. พายุลูกนี้จะถึงดานัง และจะส่งผลถึงไทยทันที โดยภาคใต้ฝั่งอันดามันจะมีฝนตกมากขึ้นอีก ตั้งแต่ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และมีฝนตกหนักในภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งต้องเฝ้าระวังเพราะมีจุดที่อ่อนแออยู่ทั้ง จ.จันทบุรี ระยอง บางพื้นที่
แต่ที่น่าห่วงมากกว่า คือพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ที่มีน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ จ.หนองคาย ตั้งแต่ อ.ศรีเชียงใหม่ ไปจนถึง อ.โพนพิสัย แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงต่อเนื่อง แต่ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่งอยู่ โดยพรุ่งนี้ระดับน้ำโขงที่บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร จะสูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนที่อยู่ริมน้ำโขงเตรียมรับมือ เพราะพายุหมายเลข 15 ที่จะขึ้นฝั่งที่ดานังพรุ่งนี้ จะส่งผลให้พื้นที่ จ.นครพนม มุกดาหาร มีฝนตกเฉลี่ย 80-90 มิลลิเมตร คาดว่าจะตกหนักมากขึ้นช่วงค่ำวันที่ 19-20 ก.ย. เนื่องจากพายุมาถึง จ.นครพนม หนองคาย อุดรธานี โดยเฉพาะชาวหนองคาย ชาว อ.โพนพิสัย ต้องเตรียมรับน้ำเอ่อ ส่วนสกลนคร ที่ขณะนี้มีน้ำมาก ตั้งแต่ อ.น้ำอูน ศรีสงคราม วานรนิวาส อากาศอำนวย ไปจนถึง อ.ท่าอุเทน ช่วงวันที่ 19 -20 ก.ย. ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น เท่าๆ กับช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ต้องระมัดระวัง อาจจะมีน้ำเอ่อท่วมอีกครั้ง
ก่อนที่พายุจะเคลื่อนที่ขึ้นไปทางทิศเหนือเล็กน้อย และเข้าไปที่ จ.น่าน ซึ่งจะเริ่มมีฝนตกตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป และวันที่ 21 พ.ย. พายุจะถึง จ.น่าน ตอนบน ตั้งแต่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา บ่อเกลือ และ อ.เมืองน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมไปแล้ว 2 รอบก่อนหน้านี้ ซึ่งพายุหมายเลข 15 จะทำให้ฝนตกในพื้นที่ จ.น่าน มากกว่าพายุ ยางิ ฉะนั้นจึงต้องระมัดระวัง รวมถึง จ.แพร่ตอนบน พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ตอนบน ลำปางตอนบน ต้องเฝ้าระวังเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี พายุหมายเลข 15 มีขนาดเล็กกว่าพายุยางิ และปริมาณฝนจะไม่มากเท่าพายุยางิที่ตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ที่ 100 มิลลิเมตร, 100 มิลลิเมตร และ 200 มิลลิเมตร หรือรวม 3 วัน อยู่ที่ 400 มิลลิเมตร แต่สำหรับพายุหมายเลข 15 คาดว่าจะทำให้มีฝนตกหนักเพียง 2 วัน รวมอยู่ที่ 250 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าพายุยางิ จึงเชื่อว่า จะไม่ส่งผลให้น้ำแม่สายล้นตลิ่ง หรือหากล้นตลิ่งก็ไม่มากเท่าพายุยางิ โดยพื้นที่ จ.เชียงราย อาจจะมีน้ำขึ้นมาท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น อ.แม่อาย แต่ไม่มาก และใช้เวลาไม่นาน 5 วัน หมด
ส่วนพายปูลาซัน ที่ก่อตัวขึ้นเป็นพายุลูกที่ 14 ของปีนี้ กำลังเคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันตก ส่งผลให้วันที่ 18 ก.ย. มีฝนตกหนักมากที่ไต้หวัน วันที่ 19 ก.ย. ฝนตกหนักมากที่เมืองเซี้ยเหมิน มลฑลฝูเจี้ยน และพื้นที่ใกล้เคียง พอมาถึงวันที่ 20-21 ก.ย. จะเกิดฝนตกหนักที่มณฑลเจียงสี แล้วสลายตัว โดยพายุปูลาซันจะไม่มีผลต่อไทย.-สำนักข่าวไทย