นายกฯ เสียใจ “ยิ่งลักษณ์” หนี ฝ่ายความมั่นคงเป็นจำเลยสังคม

ทำเนียบฯ 29 ส.ค.-  นายกฯ เสียใจ ฝ่ายความมั่นคงเป็นจำเลยของสังคม กรณี “ยิ่งลักษณ์” หลบหนี  สั่งเร่งติดตามเส้นทาง ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รอคำตอบอย่างเป็นทางการจากต่างประเทศ หลังสอบถามไป เชื่อ จะติดตามตัวกลับมาได้ ยอมรับ กังวลจะซ้ำรอย “ทักษิณ”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ยอมรับ รู้สึกเสียใจ ที่ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงกลายเป็นจำเลยของสังคม กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว ทั้งๆ รัฐบาลนี้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมุ่งหวังให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการ  

“ประเด็นแรก ถ้าทุกคนย้อนกลับไปดู สมัยก่อนใครจะไปไหนก็ตาม ก็ออกคำสั่ง มาตรา 44 ใช่หรือไม่ ว่าจะต้องขออนนุญาต คสช. และที่ผ่านมาสื่อฯ นักสิทธิมนุษยชน ฝ่ายการเมือง ก็บอกว่าเป็นการละเมิด ผมก็ยกเลิกคำสั่งนั้นไปแล้ว  ฉะนั้นเขาไม่ต้องมาขอผม เข้าใจตรงนี้ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 ในระหว่างนี้ ที่การตัดสินยังไม่เกิดขึ้น ศาลก็มีข้อตกลงกับผู้ถูกกล่าวหาว่า ให้มีเงินประกันตัว 30 ล้านบาท ว่าจะไม่หนีออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกยึดเงินประกันไปแล้ว นี่คืออีกขั้นตอน เป็นเรื่องของศาล และประเด็นที่ 3  เส้นทางการหายตัว  ได้สั่งการไปหลายวันแล้ว การดำเนินการต้องเช็คหลายทาง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ประสานผ่านทางการทูต ทั้งประเทศในกลุ่ม CLMV  สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึง รอการตรวจสอบจากทุหน่วยงาน

“ผมก็ให้สอบถามไป และรอคำตอบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ผมก็ไม่ทราบว่าจะตอบมาว่าอย่างไร การเข้าการออก ไปตรงไหน ไปขึ้นเครื่องบินจากตรงไหน ไปยังไง ตอนนี้กำลังดำเนินการทั้งหมด ขึ้นอยู่กับต่างประเทศทั้งต้นทาง ปลายทาง ว่าจะตอบอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานอยู่ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในประเทศ หรือหลบหนีไปในเส้นทางใด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความวุ่นวายสับสนพอสมควร  ในการไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรีทุกแห่ง เพราะจะถูกมองว่าเป็นการไปรังแกอดีตนายกรัฐมนตรี  จึงได้สั่งให้ฝ่ายความมั่นคงผ่อนปรนการติดตามออกมาเล็กน้อย มีจุดเฝ้าตรวจอยู่หน้าบ้าน ก่อนและหลังออกจากบ้าน  ซึ่งเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก 


“อยากให้ทุกคนเข้าใจเหตุผล และการชี้แจงนี้ ไม่ได้เป็นคำแก้ตัว  อยากให้ทุกคนมีหลักคิดให้ถูกต้อง และยืนยันว่า  คสช.และฝ่ายความมั่นคง ไม่ได้ให้การช่วยเหลือในการหลบหนี เว้นแต่มีคนชั่วบางคนปล่อยปละละเลย และถ้าพบมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ หรือรับผลประโยชน์ ก็จะต้องหาจนเจอและถูกลงโทษ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกินความสามารถ แต่ต้องขอเวลาระยะหนึ่ง เพราะเกี่ยวพันกับต่างประเทศ ไม่ต้องการให้วิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน เกรงจะเป็นปัญหา  อย่าเอาเรื่องทุกเรื่องมาปนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเสียหาย  

“ถ้าไปต่างประเทศ ก็ต้องมีการขอความร่วมมือ  ขอส่งตัว อะไรต่างๆ ท่านแรกยังกลับไม่ได้เลย เพราะว่าท่านก็เคลื่อนไหวของท่านไปเรื่อย  เพราะฉะนั้นก็เป็นเคสเดียวกับทายาทกระทิงแดง นั่นขอตำรวจสากลไป 170 ประเทศ ยังกลับมาไม่ได้เลย แต่ผมยืนยันว่า ต้องลงโทษให้ได้  ต้องหาวิธีการทางกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เป็นการไม่สมควร หากหลังจากนี้อดีตนายกรัฐมนตรีจะมีความเคลื่อนไหว เพราะเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งขณะนี้มีความผิดเพียงเรื่องเดียว คือ การหลีกเหลี่ยงการไปศาล และถูกยึดเงินประกัน  ส่วนเรื่องคดียังไม่ถูกตัดสิน ต้องรอฟังผลเดือนกันยายน ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร 

นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับว่า มีความกังวลว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะซ้ำรอยกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร และว่า  ถ้าหลบหนี ก็จะเป็นผู้ร้ายหนีคดี ก็ต้องลดการให้เกียรติ  ที่ผ่านมาให้เกียรติมาตลอด  

 “วันนี้ อย่ายกความรับผิดชอบทั้งหมดให้ผม และไม่อยากให้คิดว่า ฝ่ายความมั่นคงล้มเหลว  เพราะได้ทำเรื่องดีให้เกิดผลสัมฤทธิ์หลายเรื่อง ผมหนักอกนะ ถ้าเป็นผม ท่านจะรู้ว่า ท่านทำไม่ได้หรอก จะช่วยใคร ผมช่วยไม่ได้ อย่าเอาเรื่องนี้ไปพันเรื่องโน้น คลิปออกมาเต็มไปหมด มันคนละเวลา มันคนละเรื่อง  มันปิดไม่มิดหรอก เดี๋ยวหาเจอจนได้ ใจเย็นๆ อย่าให้อย่างอื่นพังไปด้วยเลย ผมขอร้อง อย่าให้สิ่งที่ผมพยายามทำมา 3 ปี มันล้มละลายไปด้วยคนๆเดียว ผมขอแค่นี้ได้หรือไม่ ถ้าท่านเชื่อมั่น ผมจะทำให้” นายกรัฐมนตรี กล่าว “ นายกรัฐมนตรี กล่าว  

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังไม่ขอตอบ กรณีหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอลี้ภัย  โดยให้เหตุผลว่า  ยังไม่ชัดเจนว่าจะลี้ภัยเพราะเหตุใด และคาดว่าไม่น่าจะขอลี้ภัยได้        .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต