fbpx

“เศรษฐา” ย้ำเร่งแก้ปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการ 24 ก.ค.- “เศรษฐา” ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ ย้ำเดินหน้าแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา ช่วยกันปลูกฝังให้เด็กนักเรียนเกลียดชังยาเสพติด แนะแบ่งเงินรางวัลนำจับเป็น 2 ส่วน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2567 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าเข้าร่วมประชุม โดยนายเศรษฐา กล่าวเปิดการประชุมฯ ว่า เป็นการพบกันครั้งที่ 2 ตามที่ได้บอกไว้ สำหรับประเด็นวันนี้ อยากจะพูดคุยถึงเรื่องการศึกษา และเสริมด้วยเรื่องของความมั่นคง รวมถึงปัญหายาเสพติด จากนั้น นายเศรษฐา รับฟังบรรยายการนำเสนอข้อมูล บทบาท ภารกิจ ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ประกอบด้วย ภารกิจด้านการศึกษา ภารกิจด้านความมั่นคง (ปัญหาในพื้นที่ชายแดนและปัญหายาเสพติด) และภารกิจอื่น ๆ

ภายหลังรับฟังบรรยายการนำเสนอข้อมูลฯ นายกฯ กล่าวขอให้เน้นย้ำเรื่องการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา รวมถึงการแก้ไขปัญหาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ซึ่งมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ หรือ Thailand Zero Dropout เป็นเรื่องที่ดี รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้ขับเคลื่อนทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฝากให้หน่วยงานของ ศธ. ทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องของยาเสพติดจากข้อมูล ในโรงเรียนยังไม่มีการแพร่ระบาดมากนัก ถ้าไม่พูดถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ช่วยกันปลูกฝัง ให้เด็กมีความเกลียดชังยาเสพติดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจถึงโทษและอันตรายของยาเสพติด


ขณะที่เรื่องการพนันออนไลน์ เรื่องคอลเซ็นเตอร์ และเรื่องของยาเสพติด ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคง ซึ่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขอให้ถือเป็นภารกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด เป็นปัญหาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านมีConcern อย่างมากในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการบำบัด การสร้างเครือข่ายความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงการวางมาตรการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาตามตะเข็บชายแดน ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ สำหรับเจ้าหน้าที่ขอให้มีความพร้อมในการทำงาน รองรับสถานการณ์ ขออย่าประมาท อุปกรณ์การทำงานจะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่าเรื่องของเงินรางวัลนำจับยาเสพติด ตนเข้าใจว่า ยังมีหลายหน่วยงานที่มีข้อถกเถียงเรื่องของการแบ่งปันเงินรางวัล ซึ่งจากที่ตนได้พบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการในหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเช่น ป.ป.ส. กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้มีการแบ่งเงินรางวัลจากการจับยาเสพติดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่ได้ตกลงไว้อย่างชัดเจน ซึ่งการจ่ายเงินรางวัล ส่วนมากจะจ่ายเมื่อจบสิ้นคดี บางคนเกษียณไปแล้วยังไม่ได้เงินรางวัล ขอให้มีการแบ่งจ่าย 30% เมื่อมีการจับกุม ส่วนอีก 70% จ่ายตอนคดีจบสิ้น เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในการปฎิบัติหน้าที่ ถือเป็นมุ่งหมายหลักในการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สิ้นซาก

โดย เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้สั่งการให้ ปปง. ดำเนินการยึดทรัพย์ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วและฉับพลัน ถ้าหากสงสัยขอให้ยึดมาก่อน ซึ่งหน้าที่พิสูจน์ทราบเป็นหน้าที่ของผู้ที่ถูกยึดทรัพย์มาชี้แจง ส่วนเรื่องของความมั่นคง ปัจจุบันมีปัญหาอย่างมาก ขอให้หน่วยงานความมั่นคงร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาการลุกลามตามชายแดนของบุคคลต่างด้าว และปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ ฝากให้กระทรวงมหาดไทยดูในเรื่องนี้ ถ้าหากบุคคลกลุ่มนี้มีคุณสมบัติครบที่ต้องได้สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ขอให้เร่งดำเนินการให้บุคคลกลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายที่ระบุโดยเร็ว ขออย่านำไปเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง ถือเป็นสิทธิ์ของคนที่พึงจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา สาธารณสุข ขอให้ยึดความเท่าเทียมเป็นหลัก อย่าให้เกิดความเหลื่อมล้ำ อย่าปฏิเสธก่อน ขอให้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแล อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่


ในส่วนเรื่องของการพนันออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ การประสานงานกับต่างประเทศถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ตนเองได้พูดคุยกับนายกฯ กัมพูชา เข้าใจว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการประสานไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องของการตัดตอนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ตามตะเข็บชายแดนที่มีจำนวนมาก ถือว่าได้รับการประสานงานที่ดี อยากให้มีการติดตามที่ชัดเจน ส่วนเรื่องของทุนจีนสีเทา นายกฯ ย้ำ เรื่องของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานธุรกิจ เราไม่ได้รังเกียจ แต่เรารังเกียจนักธุรกิจผิดกฎหมาย ขอให้เจ้าหน้าที่รวมถึงฝ่ายมั่นคงอย่านิ่งนอนใจ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อไป

โดยหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงนายกรัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน .-317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด