ภ.9 ยึดยาบ้า-เฮโรอีน กลางเมืองสุไหงโก-ลก กว่า 5 แสนเม็ด

นราธิวาส 15 ก.ค. – ตำรวจภาค 9 จับยาเสพติดลอตใหญ่กลางเมืองสุไหงโก-ลก กว่า 5 แสนเม็ด มูลค่าส่งออกประเทศที่ 3 กว่า 51 ล้านบาท


พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำคณะแถลงข่าว การเข้าตรวจค้นก่อนจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมทั้งเฮโรอีน กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน และตรวจยึดยาบ้า ได้ 515,115 เม็ด

สรุปผลปฏิบัติการจนสามารถนำไปสู่การตรวจยึดยาบ้าและเฮโรอีนในครั้งนี้ โดยเมื่อ 9 ก.ค.67 (18.30 น.) ตำรวจสภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณริมถนนทางเข้าสนามกีฬามหาราช มีนายรูสมาน อายุ 34 ปี ซึ่งขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่น PCX สีบรอนส์เงิน ทะเบียนนราธิวาส ผ่านมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงเลี้ยวกลับเพื่อหลบหนี จนถูกจับกุมได้ พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีแดง มีอักษร WY จำนวน 36,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ เจ้าหน้าที่ แจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ที่สำคัญคือเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป


ต่อมาตำรวจขยายผลจากนายรูสมาน จนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลอตนี้ อีก 2 คน คือ นายอภินันท์ และนายอริศ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านทั้ง 2 หลัง ซึ่งสร้างติดกันพร้อมแสดงตัวต่อ มารดาของนายอภินันท์ ผลการตรวจค้นบ้าน พบบิดาและมารดาของนายอริศ นำตรวจค้นก่อนพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 479,115 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 9 หลอดบิ๊ก ส่วนนายอริศ เมื่อทราบเรื่องได้หลบหนีไป

ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ จำนวน 515,115 เม็ด ถ้าเล็ดลอดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่ 3 จะมีมูลค่าถึง 51,511,500 บาท ส่วนราคายาบ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันราคาเม็ดละ 20-50 บาท หากหลุดเข้าไปในประเทศที่ 3 ราคาเฉลี่ยประมาณ 50-100 บาท

ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ เป็นการขานรับหลังจากที่ นายเศรษฐกิจ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลั่นวาจาและสั่งการในที่ประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เวลา 3 เดือนทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ มีผู้ว่าฯ ในฐานะ CEO บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับฝ่ายความมั่นคงอย่างเข้มข้น เพื่อขจัด-ตัดวงจรค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องรีบเร่งแก้ไข.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย