fbpx

สภามติเอกฉันท์ ผ่านร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช. เรื่องใต้

รัฐสภา 10 ก.ค.- สภาฯ มติเอกฉันท์ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่ง คสช. เรื่องใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน. ให้เกิดความเชื่อมโยงประชาชน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (10 ก.ค.67) มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 14/2559 เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้อภิปรายหลักการของร่างกฎหมายว่า คณะกรรมาธิการได้ใช้ร่างพระราชบัญญัติ ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.พรรคเพือไทย เสนอเป็นร่างหลักในการพิจารณา โดยผลการพิจารณาทั้ง 6 มาตรา คณะกรรมาธิการ ฯ เห็นว่า เมื่อมีการยกเลิกคำสั่ง คสช.ดังกล่าว จะมีผลให้ ศอ.บต. ที่แต่งตั้งโดยคำสั่งสิ้นสุดลง รวมถึงผลของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ถูกงดบังคับใช้โดยคำสั่ง คสช. กลับมามีผลบังคับใช้เช่นเดิม ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เพิ่มบทบัญญัติใหม่ขึ้นมา 1 มาตรา เพื่อกำหนดกรอบเวลาในการแต่งตั้งสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ชัดเจน และเพิ่มเติมเหตุผล ข้อสังเกต ของร่างกฎหมายนี้ให้คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแก้ไข โดยสอดคล้องและเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน รวมถึงให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาผลของคำสั่ง คสช. ดังกล่าว ทำให้เห็นว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คำสั่งนี้ทำให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งไม่เชื่อมโยงกับประชาชน ดังนั้นในการที่จะนำสภาที่ปรึกษาฯ กลับมา จะต้องจัดความสัมพันธ์ระหว่าง ศอ.บต. กับ กอ.รมน.ใหม่ ต้องเพิ่มบทบาทและความเชื่อมโยงกับประชาชนมากขึ้น และสภาที่ปรึกษาฯ ใหม่นี้ ควรมีองค์ประกอบที่เหมาะสมให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมได้จริง มีบทบาทในการหารือสาธารณะเพื่อให้กระบวนการสันติภาพมีผลสำเร็จ

ทั้งนี้ หลังการอภิปรายของสมาชิกรายมาตราในวาระที่ 2 แล้ว จากนั้นในการลงมติวาระที่ 3 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 406 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง จึงถือว่ามติเอกฉันท์เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้.-312 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด