สภาถกญัตติด่วน! ปมตุลาการศาล รธน.

รัฐสภา 22 ส.ค.- สภาถกญัตติด่วน! ปมตุลาการศาล รธน. บรรยาย “ยุบพรรคก้าวไกล” ฝ่ายค้าน-รัฐบาลประสานเสียง “เท้ง ณัฐพงษ์” อ่านจรรยาบรรณศาลกลางสภา ถามขัดจริยธรรมหรือไม่ มั่นใจถกเถียงได้ไม่ผิด ขอสบายใจได้ไม่ก้าวล่วง เย้ย เราคือ สส.ผู้ทรงสิทธิ์จากประชาชนโดยตรง ด้าน “อดิศร” มาเป็นกลอนกฎหมาย ซัดเป็นการทำลาย “ตราชู” ลั่น ผมไม่ตลกกับท่าน ในเมื่อปาราชิกแล้วต้องสึก อย่าเป็นกาดำในกระบวนการยุติธรรม


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณาเกี่ยวกับการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งขององค์กรตุลาการในเวทีสาธารณะ และการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ เพื่อให้ส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาดำเนินการต่อไป

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวย้ำก่อนเสนอหลักการว่า เนื่องจากวันนี้เป็นการประชุมที่อาจจะมีการกล่าวถึงบุคคลภายนอก เพราะฉะนั้นเราจะไม่คุ้มครองตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดสดการประชุม ดังนั้นจึงอยากให้พึงระวัง รวมถึงหากจะกล่าวถึงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ก็ให้พึงระวังเรื่องการละเมิดอำนาจศาล


จากนั้น นายณัฐพงษ์ อภิปรายหลักการในการเสนอญัตติว่า สืบเนื่องจากข่าวเมื่อวานนี้ ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม กรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ขึ้นไปบรรยายเวทีสาธารณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการแสดงความคิดเห็นถึงพรรคประชาชนโดยตรงว่าพวกเราต้องขอบคุณท่านที่ยุบพรรคก้าวไกล จนนำมาสู่การที่พรรคประชาชนได้รับเงินบริจาคสูงถึง 20 ล้านบาท

ตนคิดว่าการแสดงความคิดความเห็นแบบนี้ต่อที่สาธารณะของบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการคิดไตร่ตรองอย่างดี เพื่อเป็นการทัศนคติส่วนตัวหรือเป็นการแสดงทัศนะคติที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่ของท่าน ในฐานะองค์กรอิสระ ภายใต้รัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถ้าแสดงความคิดความเห็นส่วนตัวทั่วไป ตนคิดว่าไม่ขัดข้องครับ แต่เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดความเห็น ในฐานะที่ท่านเป็นองค์คณะตุลาการที่พิพากษาประหารชีวิตนักการเมือง โทษสูงสุดถึงการยุบพรรค แล้วท่านออกมาแสดงความคิดเห็นตอบประเด็นดังกล่าวแบบนี้ เชิงประชดประชันหรือถากถาง ตนคิดว่าแบบนี้เป็นความชอบธรรมของสภาผู้แทนราษฎรของประชาชนที่รับฟังอยู่ เราเป็นผู้แทนของประชาชนที่ทรงอำนาจสูงสุดควรจะต้องตั้งคำถามได้ต่อองค์กรภายใต้รัฐธรรมนูญ

นายณัฐพงษ์ ได้อ่านมาตรฐานทางจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 2 ว่าด้วยจริยธรรมอันเป็นค่านิยม ว่า ข้อที่ 13 บัญญัติไว้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องปฎิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมเป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ และข้อ 17 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องไม่ทำการใดๆ ให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์และการดำรงตำแหน่ง


“จากการแสดงทัศนคติบนเวทีสาธารณะแบบนี้ ท่านคิดว่าเป็นการแสดงทัศนคติที่เป็นกลางหรือไม่ครับ เป็นการแสดงทัศนคติที่สาธารณะชนตั้งคำถามได้หรือไม่ครับ ว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคก้าวไกลไปนั้นท่านใช้อคติส่วนตัวในการวินิจฉัยหรือไม่ ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้เราตั้งคำถามได้ ในสภาฯ แห่งนี้เป็นสิ่งที่เป็นเวทีที่เราพูดแสดงความคิดเห็นแบบนี้ร่วมกันได้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่าตามจรรยาบรรณวิชาชีพคนที่เป็นตุลาการ ผู้พิพากษาไม่พึ่งแสดงปาฐกถาบรรยายสอนหรือเข้าร่วมการสัมมนาอภิปรายแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสาธารณะชน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ และเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา ตนคิดว่าคงไม่มีผู้พิพากษาคนไหนยอมรับได้ในกรณีนี้

“นี่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงออกชัดเจน กลัวทำให้เกิดความเสื่อมเสียของจรรยาบรรณวิชาชีพตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ …อยากจะเรียกร้องเพื่อนสมาชิกเห็นชอบกับญัตตินี้ เพื่อส่งข้อสังเกตไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะพวกเรายืนยันว่าในเรื่องของมาตรฐานจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นเรื่องนามธรรม ควรจะต้องให้คนภายในองค์กรนั้นตรวจสอบกันเอง ดังนั้นเรื่องนี้สบายใจได้ ไม่ใช่เรื่องฝ่ายนิติบัญญัติจะไปใช้อำนาจล่วงเกินฝ่ายอื่น” นายณัฐพงษ์ กล่าว

“พวกเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้ทรงสิทธิ์ ได้รับอำนาจจากประชาชน สิ่งที่เราทำได้ร่วมกันแน่นอนคือการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง เรามีอำนาจเต็มที่ดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อทำให้สภาผู้แทนราษฎรของเราส่งความศักดิ์และสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนของปวงชน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ขณะที่นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องเดียวกัน เสนอหลักการว่า ตนได้ดูข่าวตุลาการท่านหนึ่ง ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ ไม่ทราบว่าท่านพูดแบบตั้งใจมาพูดหรือตกกระไดพลอยโจร ในการแสดงความคิดเห็นในลักษณะตนเองเป็นใหญ่อวดเบ่งและเหยียดหยามเสียดสีบุคคลซึ่งเคยเป็นคู่กรณีในศาลรัฐธรรมนูญ

“ผมให้ความเคารพนะครับคำว่าศาล เพราะผมเรียนนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เราสอนว่านิติศาสตร์ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ให้ความยุติธรรมโดยไม่มีอคติ ไม่มีมายาคติ จนพระบิดาแห่งกฎหมายไทยได้เขียนกลอนสั้นๆ ไว้ว่า เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล จงอย่ากินสินบาทคาดสินบน เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ กรณีที่เกิดภาคใต้ไม่ใช่สินบนนะครับ แต่เป็นการกระทำโดยอาศัยตนเองได้ตัดสินคดีมา ยังติดค้างในใจหรือเปล่า” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร ย้ำว่า วันนี้เราพูดถึง Balance of Power นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ เขาถ่วงดุลกัน เรากำลังทำหน้าที่ถ่วงดุลกับฝ่ายตุลาการ เรามีคดีความ ท่านตัดสินยุบพรรค ประหารชีวิตนายกรัฐมนตรี 5:4 คนหนึ่งเอียงไปทางไหน คนนั้นชนะ วันนี้จะต้องหาทางร่วมกันในการแก้รัฐธรรมนูญ และวิธีพิจารณาความตามอำนาจหน้าที่ของท่านต่อไป

“เราให้ท่านไปเป็นพระ โดยการกลั่นกรองของวุฒิสภา ผมไม่ได้ว่านะครับ กลั่นกรองมาแล้ว ให้ท่านเป็นพระอยู่บนหิ้ง เพราะต้องอยู่ในธรรมวินัย ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพระ เยี่ยงสมณะ เมื่อท่านทำผิดพระวินัย ท่านปราชิก ไปบิณฑบาตไม่มีใครใส่บาตแล้ว ตนว่าคนเดียวนะครับ ไม่ได้ว่าทั้งองค์กร มีคนบอกว่าคุณอย่านะ ท่านครับ ไม่ต้องกลัว เรานิติบัญญัติ ตุลาการต้องดีใจ พวกเราถ่วงดุลท่าน เราไม่มีอคตินะครับ เราเห็นท่านไปพูดแล้วไม่เหมาะสม ไม่ทราบว่าก่อนตัดสินคดีใดๆ ของท่านท่านมีอคติหรือไม่ เป็นกลางหรือเปล่า” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร กล่าวต่อว่า มีคนบอกตนว่า Justice must not only be done, but must also be seen to be done แปลความว่าความยุติธรรมต้องไม่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ต้องมีความเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง ต้องไม่มีอคติ ต้องเป็นกลาง

“ท่านยังอารมณ์ค้างติดตลก ผมไม่ตลกกับท่าน ท่านกำลังทำลายความยุติธรรมจะโดยเจตนาหรือไม่ วันนี้ผมจึงจำเป็น ท่านกำลังทำลายตราชู ความยุติธรรมไม่ว่าด้วยเจตนาหรือไม่ ซึ่งตามญัตติขอให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ผมเห็นว่าไม่จำเป็นต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเมื่อพระปาราชิกก็ต้องสึก ขออย่าเป็นกาดำ เพราะเป็นสิ่งไม่ดีในกระบวนการยุติธรรมคนเพียงคนเดียวทำให้กระบวนการยุติธรรมขาดความเชื่อมั่น” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ตนอยากให้ตุลาการนิติบัญญัติและบริหารทำหน้าที่ของตัวเอง อย่ายกตนข่มท่าน ยืนยันว่าไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับตุลาการทั้งหมดมีเรื่องแค่เฉพาะบุคคล นิ้วในร้ายก็ตัดทิ้ง ตัดอวัยวะรักษาชีวิต วันนี้สภาทรงเกียรติไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติด้วยกัน เป็นผู้เสียหายร่วมกัน จะต้องปกปักรักษา

“ท่านเป็นตุลาการชี้นิ้วว่าคนอื่นขาดจริยธรรม แต่อีก 3 นิ้วที่ชี้เข้าหาตัวเองท่านจะไม่อธิบายได้อย่างไร ไม่อยากให้ความยุติธรรมต่ำมากกว่านี้ท่านอยู่สูงแล้ว ให้อยู่สูงต่อไปวินิจฉัยความขัดแย้งของพวกเราแต่ถ้าท่านอยากลงมาต่ำให้ลงมามาเกลือกกลั้วกับพวกเรา ผ่านการเลือกตั้งมีประชาชนตรวจสอบ” นายอดิศร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ญัตติด่วนนี้ มีเพียงนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ชีวิตตนในทางการเมืองเหลืออีกไม่เยอะ พูดกันตรงๆว่าเรื่องของพวกเรามีธงไว้แล้ว ตนคือหนึ่งใน 44 คน ที่ได้เซ็นชื่อเสนอร่างกฎหมาย มาตรา112 วันนี้ทั้งสังคมคิดไปว่าพวกผมอยู่ได้อีกไม่นาน กระบวนการของป.ป.ช. ตั้งแต่รับคำร้อง ไต่สวน ยาวไปถึงเสนอความคิดเห็น จะใช้เวลาเท่าไหร่สำหรับ 44 คน ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าเร็ว ตนอยากรู้ว่าถ้ามีคนไปร้องป.ป.ช.ในเรื่องแบบนี้ ป.ป.ช. จะใช้เวลาเท่าใด จะเร็วเป็นกามนิตหนุ่ม เหมือน 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกลหรือไม่ หรือจะช้าเหมือนกรณีอื่นๆ

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่าพวกเราในสภาทำอะไรได้บ้าง พวกเราคือฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้อำนาจตามที่ประชาชนไว้ใจเรามา เราคือสถาบันสุดท้ายที่กำลังปกป้องอำนาจสูงสุดของประชาชน จริยธรรมสูงสุดของพวกเราคือความรับผิดชอบต่อประชาชน และประชาชนจะตัดสินใจเองว่าพวกเราควรจะอยู่ที่นี่ต่อหรือไม่ ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราต้องมีฉันทามติร่วมกัน ที่จะปล่อยให้จริยธรรมร้ายแรงของนักการเมืองที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ออกจากระบบ ที่เป็นมรดกของคสช.

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จริยธรรมของนักการเมืองเป็นคนละเรื่องกับกรณีที่ใช้บังคับกับศาล ยืนยันแม้สภาฯแห่งนี้หากตัดสินใจว่าจะเอาจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกจากรัฐธรรมนูญหรือออกจากพ.ร.ป. ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะอยู่เหนือการตรวจสอบ ยังผูกพันกับกฎหมายต่อต้านทุจริต หากมีนักการเมืองทุจริตเรายังมีความรับผิดชอบทางกฎหมาย หากแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ใช้อำนาจบาปใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายต่อไป แต่ขออย่าใช้จริยธรรมร้ายแรงเลื่อนลอยเหมือนที่ผ่านมา อย่าให้อาวุธนี้ที่คสช.มอบให้จัดการนักการเมือง เราต้องช่วยกันหยุดยั้งอาวุธนี้ เพื่อำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

ภายหลังนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายปิดญัตติเสร็จสิ้น นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวว่าจากการอภิปรายเห็นตรงกันว่าจะส่งเรื่องและข้อสังเกตไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการต่อไป และสั่งปิดการประชุมในเวลา 18.25 น. .-312 319 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย