รฟม.ชี้บทลงโทษสูงสุดรถไฟฟ้าคือการยกเลิกสัญญา

กรุงเทพ 9 ก.ค. -รฟม. ระบุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หากเกิดเหตุอีก โดยบทลงโทษสูงสุดตามสัญญาสัมปทานคือการยกเลิกสัญญา


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการเดินรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (MRT สายสีเหลือง) และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ครั้งที่ 1/2567 โดยมีสาระสำคัญเรื่อง การรายงานเหตุการณ์ประตูบางส่วนของขบวนรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูเปิดที่สถานีลาดปลาเค้า (PK18) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 กรกฎาคม 2567

ภายหลังการประชุม นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ รฟม. (ปฏิบัติการ) และรักษาการผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทาง รฟม.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นเคราะห์ดีที่ยังไม่เกิดความสูญเสียถึงชีวิต แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงได้ในอนาคต โดย รฟม.จะต้องทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด หากเกิดเหตุขึ้นมาเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ ทั้งนี้ หากเกิดเหตุไม่ปลอดภัยต่อสาธารณะ รฟม.มีสิทธิ์ที่จะเสนอแนะ สั่งการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยสัญญาสัมปทานเปิดช่องไว้ให้ทำได้ เช่น การหักคะแนนหรือดึงเงินที่เราจะจ่ายให้กลับมา รวมทั้งขั้นสูงสุดคือการยกเลิกสัญญา


กรณีกระเป๋าติดที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ทางเราจึงต้องหยุดรถเพื่อนำกระเป๋าออกมาก่อนทำให้การเคลื่อนรถเข้ามายังไม่ครบทั้งขบวน เจ้าหน้าที่จึงต้องเปิดประตูและยกเลิกระบบอัตโนมัติ พอประตูเปิดทำให้ประตูบางส่วนอยู่นอกสถานีซึ่งทาง รฟม.ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก รถทั้งขบวนจะต้องอยู่ในสถานีเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะนำกระเป๋าออกมา และต้องหลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาโดยใช้เจ้าหน้าที่แต่จะต้องใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาแก้ปัญหา ต้องตัดคนออกจากความเสี่ยงก่อน โดยจะต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่กับทางผู้รับสัมปทานให้นำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและจะนำเหตุการณ์นี้มาเป็นบทเรียน ขอยืนยันว่าความปลอดภัยของผู้โดยสารถือเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด หากไม่ปลอดภัยจะต้องสั่งให้หยุดวิ่ง ไม่สามารถอลุ้มอล่วยได้.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว