กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมชลฯ เตือนแม่น้ำน่านที่เมืองน่านสูงขึ้น แต่ไม่ล้นตลิ่ง สั่งเตรียมพร้อมรับมือพายุโซนร้อนปาข่า 27-28 ส.ค.นี้
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ได้ติดตามสภาพฝนในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่านมีฝนตกหนักกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) โดยจังหวัดเชียงรายฝนตกหนักบริเวณอำเภอแม่สาย วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 139 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำมะ แม่น้ำสายก่อนจะไหลไปรวมกันที่แม่น้ำรวก และไหลลงสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณตำบลเวียงพางคำ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดน่าน เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณอำเภอทุ่งช้า วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 95.88 มิลลิเมตร และวันนี้ (26 ส.ค. 60) วัดได้สูงสุด 77.9 มิลลิเมตร ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ได้ประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน พบว่าบริเวณสถานี N.64 บ.ผาขวาง อ.เมืองน่าน ระดับน้ำอยู่ที่ 5.68 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 621.2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 3.82 เมตร โดยคาดว่าระดับน้ำสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 5.80 – 5.85 เมตร (รสม.) ปริมาณน้ำ 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำว่าตลิ่ง 3.65 เมตร (ตลิ่ง 9.50 เมตร) ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 – 19.00 น.วันนี้ (26 ส.ค. 60) และคาดว่าหลังเวลา 19.00 น.ปริมาณน้ำจะเริ่มลดลง ส่วนที่สถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้น่าน ในเขตอ.เมืองน่าน มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 587.0 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ที่ระดับ 4.40 เมตร (รสม.) ต่ำกว่าตลิ่ง 2.60 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดที่ 4.70 – 4.75 เมตร (รสม.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 2.25 เมตร (ระดับตลิ่ง 7 เมตร) ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 – 04.00 น.ของวันที่ 27 สิงหาคม จากนั้นคาดว่าหลังเวลา 04.00 น.ปริมาณน้ำจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนที่จะตกลงมาอีกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ปาข่า” ช่วงวันที่ 27- 28 สิงหาคมนี้ กรมชลประทานได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่รายงานสถานการณ์น้ำต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังให้ทุกโครงการชลประทาน เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำ เข้าไปประจำในพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดน้ำท่วม เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ จึงขอให้ประชาชนติดตามสภาวะอากาศและสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย