แพร่ 6 ก.ค. – สรรพสามิต ชู “มหานครแห่งสุราพื้นบ้าน” หลังลดภาษีสุราชุมชน รองรับพลังซอฟต์พาวเวอร์
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า มีนโยบายในการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ควบคู่กับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพสุราชุมชนให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตามนโยบายของรัฐบาล หลังกรมสรรพสามิตออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา ปลดล็อกกฎหมายต่างๆ ได้ปรับลดอัตราภาษีสุราแช่พื้นเมือง ประเภทอุ กระแช่ สาโท โดยปรับอัตราภาษีตามมูลค่าจากเดิมร้อยละ 10 เหลือศูนย์ เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ และสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ได้ส่งผลให้สุราชุมชนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จ.แพร่ ถือเป็นหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนและมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557-2566) พื้นที่แพร่จัดเก็บภาษีสุราชุมชนเฉลี่ย 443 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นกว่าร้อยละ 30 ของการจัดเก็บภาษีสุราชุมชนทั่วประเทศ จนทำให้จังหวัดแพร่ กลายเป็น “มหานครแห่งสุราพื้นบ้าน” สะท้อนถึงการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สร้างงาน สร้างรายได้ ในชุมชนตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยผู้สูงอายุสามารถทำงานล้างขวดที่บ้าน
ส่วนลูกหลานที่เรียนจบกลับมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำวิชาความรู้กลับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดทางธุรกิจ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสุราสักทองแพร่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ปัจจุบันผลิตสุรานับร้อยชนิด มีผลิตภัณฑ์สุราชุมชนหลากหลาย ซึ่งใช้วัตถุดิบข้าวเหนียวจากภาคอีสาน ใช้น้ำดิบจากหล่มด้ง อุทยานแห่งชาติแม่ยม นับเป็นแอ่งน้ำ ภูเขาเขียวขจี ทำให้อุณหภูมิของน้ำมีผลทำให้สุรามีรสชาติอร่อย
อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยว่า กรมสรรพสามิตมุ่งผลัดดันโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิตแชมเปี้ยน” เพื่อความร่วมมือของสรรพสามิตพื้นที่ และผู้ประกอบการ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยภาษีสรรพสามิต ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างมาตรฐานสากล (สินค้าและกระบวนการผลิตสุราชุมชน) มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เดินหน้าชุมชนสู่ความยั่งยืน โดยสรรพสามิตจะมีการผนึกกำลังกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและผู้ประกอบการ ในด้านการเข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ ด้านการตลาด พลังงาน สิ่งแวดล้อม คุณภาพสินค้า และการผลิต รวมถึงส่งเสริมและให้ความสำคัญในด้าน ESG เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน และลดการใช้คาร์บอน เดินหน้าประเทศสู่ Net Zero
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตให้ความสำคัญการดูแลสินค้าปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ร่วมกับผู้ประกอบการทำบ่อหมักก๊าซชีวภาพที่เกิดจากการเก็บกักอุจจาระหมู โดยก๊าซชีวภาพนี้จะมีการเพื่อใช้เป็นพลังงานในครัวเรือน พลังงานทดแทนในการผลิตสุรา รวมถึงพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ ต.สะเอียบ ประสบกับปัญหากระแสไฟฟ้าตกบ่อย เพื่อช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคมแล้ว ยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน.-515 สำนักข่าวไทย