สรรพสามิตย้ำภาษีคาร์บอนไม่กระทบประชาชน

กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุภาษีคาร์บอนซึ่งจะเก็บจากน้ำมันเชื้อเพลิง ในระยะแรกจะไม่กระทบกับประชาชน โดยเป็นการแปลงจากภาษีสรรพสามิตที่เก็บอยู่เดิม แต่ในอนาคตทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ปี 2050 สำหรับผลงานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต 11 เดือน เก็บได้ 482,026 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 10.7% ส่วนการจับของหนีภาษี 31,067 คดี สูงกว่าปีก่อน 27.4%


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนทั่วโลก กรมสรรพสามิตตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้เดินหน้านโยบายและมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้น สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ด้านสิ่งแวดล้อม กรมสรรพสามิตมีมาตรการภาษีคาร์บอน หรือ Carbon Tax เป็นกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับ ที่สร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการปล่อยคาร์บอนให้กับผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยผู้ประกอบการที่ส่งสินค้าออกไปยังประเทศปลายทางที่เสียภาษีในส่วนนี้ สามารถนำไปเจรจาลดหย่อนค่าธรรมเนียม Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ CBAM ได้ ในระยะแรกจะมีการปรับใช้ภาษีคาร์บอนโดยใช้หลักการแปลงภาษีสรรพสามิตที่เดิมมีการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ให้อยู่ในรูปของภาษีคาร์บอน โดยไม่เป็นการสร้างภาระแก่ประชาชน


ขณะที่มาตรการรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 และ EV 3.5 ที่มีผู้เข้าร่วมมาตรการ EV 3.0 และมาตรการ EV 3.5 รวม 32 ราย ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2566 สูงกว่าปีก่อนถึง 685% และทำให้ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยกว่า 80,000 ล้านบาท มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมถึงเป็นการสร้างองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ด้านสังคม ได้ดำเนินมาตรการการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต ไวน์ สุราแช่ และสถานบริการ โดยปรับอัตราภาษีตามมูลค่าจากเดิม 10% เป็น 0% และการปรับลดภาษีสถานบันเทิง จาก 10% เป็น 5% เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ และสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ นอกจากการปรับลดอัตราภาษีแล้ว กรมได้ดำเนินโครงการ 1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน เพื่อเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน โดยโครงการนี้ถือเป็นต้นแบบของความร่วมมือภาครัฐและเอกชนที่เป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ระดับชุมชน เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ ด้านการตลาด พลังงานสิ่งแวดล้อม คุณภาพสินค้า และการผลิต รวมถึงส่งเสริมและให้ความสำคัญในด้าน ESG เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน และลดการใช้พลังงานเพื่อต้นทุนลดลง สำหรับผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมายและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรมสรรพสามิตต่างก็มีการเติบโตและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ยอดการจัดเก็บรายได้ภาษีสินค้าสุราแช่ชุมชนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 39 ล้านบาทหรือคิดเป็น 16.6%

กรมสรรพสามิตออกมาตรการลดภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อลดค่าครองชีพและต้นทุนให้กับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ดี ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต 11 เดือน (ตุลาคม 2566 – สิงหาคม 2567) จัดเก็บได้จำนวน 482,026 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 10.7% และสูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงการคลัง 1.06% ซึ่งเป็นเป้าที่ได้มีการปรับผลกระทบจากมาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยผู้ประกอบการและประชาชน อาทิ มาตรการการลดภาษีน้ำมัน ภาษีรถ EV เป็นต้น


นายเอกนิติ กล่าวว่า กรมสรรพสามิตยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก อาทิ กองทัพบก ศูนย์รักษาความปลอดภัยของชาติทางทะเล (ศร.ชล.) สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง กรมการปกครอง ไปรษณีย์ไทย เป็นต้น ส่งผลให้ผลการปราบปรามสูงขึ้นกว่าปีก่อนถึง 27.4%

กรมสรรพสามิตยังมีมาตรการด้านธรรมาภิบาล โดยได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการตรวจสอบว่า เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายผ่านการตรวจวิเคราะห์จากสรรพสามิตหรือไม่ โดยประชาชนสามารถตรวจสอบได้จากการสแกนแสตมป์บนผลิตภัณฑ์บุหรี่และสุรา ทั้งนี้นอกจากเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริตแล้ว ยังเป็นการดูแลความปลอดภัยในด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนอีกด้วย ตลอดจนยกระดับการทำงานอย่างต่อเนื่องด้วยการรับฟังผู้ประกอบการ นำองค์ความรู้ทักษะสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Agile, Design Thinking, Digital Transformation มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งเสริมบุคลากรให้มีความคล่องตัวในการทำงาน พร้อมทั้งส่งเสริมการให้บริการแบบไร้รอยต่อ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและประชาชน

ล่าสุดได้พัฒนาเว็บไซต์ใหม่โดยเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรภายในของกรม เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในทุกมิติ พร้อมทั้งเปิดตัวแชตบอต “น้องสมิตต์ (Smitt) ” ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Generative AI เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้ข้อมูลภาษีสรรพสามิตเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการและประชาชน

จากการยกระดับการดำเนินงานและการให้บริการด้วยการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆรวมถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ ส่งผลให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมได้รับรางวัลสำคัญมากมายทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ อาทิ รางวัล ASOCIO Awards 2022 รางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ และอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 17 รางวัล

กรมสรรพสามิตปักหมุดและขับเคลื่อนทั้งองค์กรให้เดินหน้าสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ Net Zero ในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทย 15 ปีซึ่งกรมต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50 % ในปี 2030 ตามแผนดังนี้

• ภาคการใช้น้ำมัน เปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปไปใช้รถ EV เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 19.5%
• ภาคสารทำความเย็น เปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นชนิด R32 เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 12.20%
• ภาคการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการเปลี่ยนเป็นใช้พลังงานทดแทน หรือ Solar Roof เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 62.40% เพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน จากการใช้ หลอดไฟอัจฉริยะ หรือระบบควบคุมแสงในอาคารที่ปรับแสงได้อัตโนมัติ เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 1.60% และการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ PC เป็น Laptop เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 3.60%
• ภาคของเสีย ด้วยการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 0.40% รวมถึงเปลี่ยนไปใช้การดำเนินงานที่ไม่มีเอกสาร หรือไม่ใช้กระดาษ เพื่อลดปริมาณก๊าซลง 0.30%
• ภาคการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการส่งเสริมลูกค้าและภาคีเครือข่ายเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าสู่ Green Supply Chain อาทิ ผู้ประกอบการโครงการสุราชุมชน 1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน

กรมสรรพสามิตมุ่งมั่นที่จะให้ยกระดับเป็นกรม ESG ก้าวสู่ Net Zero ในปี 2050 ตามยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้น สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]