นครพนม 30 มิ.ย.-ศุลกากร-สรรพากร เตรียมจัดเก็บภาษี VAT สำหรับนำเข้าสั่งซื้อออนไลน์ เริ่ม 5 ก.ค.นี้ คาดจัดเก็บภาษี 2,100 ล้านบาท หลังสินค้าออนไลน์เติบโตพุ่ง
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมโกดังสินค้าของเร่งด่วนทางบก บริษัท สมาร์ท อะลิร์ท จำกัด ตั้งอยู่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 จ.นครพนม นับเป็นโกดังจัดเก็บและคัดแยกสินค้า นับเป็นด่านชายแดนนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนแหล่งใหญ่ที่สุด โดยขนถ่ายลงจากตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อตรวจเครื่องเอ็กซเรย์ ตามที่สำแดงสินค้าผ่านชายแดน เพื่อกระจายส่งไปศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ
หลังจากราชกิจจานุเบกษา ประกาศบังคับใช้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าราคาไม่เกิน 1,500 บาท บังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 5 ก.ค.ถึง 31 ธ.ค.67 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับสินค้าในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศต้องเสียภาษีเหมือนกับ จากเดิมรัฐลบาลยกเว้นจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ (VAT) ร้อยละ 7 สำหรับ สินค้ามีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท เพราะเดิมมองว่าเป็นสินค้าราคาไม่สูง ควรอำนวยความสะดวกการนำเข้า เมื่อสินค้าออนไลน์เติมโตพุ่งสูงมาก จึงต้องจัดเก็บภาษีดังกล่าว
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ โฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีดังกล่าว เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น โดยกรมศุลกากรจัดเก็บภาษีให้ถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าในช่วง 4-5 เดือน เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าได้ ประมาณ 700 ล้านบาท ทั้งปีงบประมาณ 68 คาดว่าจัดเก็บภาษี 2,100 ล้านบาท หลังจากตั้งปีงบประมาณปี 67 นำเข้าสินค้า 89 ล้านชิ้น มูลค่า 26,000 ล้านบาท
นายพันธ์ทอง มองว่า ความกังวลของประชาชน หากเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 7 จะส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าแพงขึ้นหรือไม่ มองว่า แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ หรือผู้ขายสินค้าจะเป็นผู้รับภาระภาษีแทนลูกค้า ยอมรับสินค้าบางรายการ อาจปรับเพิ่มมากขึ้น ผู้ซื้อสินค้าอาจยอมจ่าย เพื่อดูรายการสินค้าผ่านออนไลน์ เพราะเป็นสินค้าที่ต้องการซื้อจากต่างประเทศ จึงแนะนำผู้ให้บริการขนส่งจ่ายค่าส่วนต่างนี้ เพื่อไม่ให้ไม่กระทบกับผู้ซื้อ
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากร กำลังสร้างแพลต์ฟอร์ม เตรียมรองรับจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้า เพื่อให้ผู้แพลต์ฟอร์มนำส่งภาษีโดยตรงกับกรมสรรพากร เป็นรูปแบบจัดเก็บเหมือนกับหลายประเทศ เพราะในยุคปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เติบโตขึ้นสูงมาก.-515.-สำนักข่าวไทย