โรงแรมเซ็นทาราฯ 24 มิ.ย. – ประธาน กกต. ยืนยันผู้สมัคร สว.โมเมคุณสมบัติมีโทษ ย้ำมีสายข่าวจับตารวมกลุ่มฮั้วโหวต
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงขั้นตอนการเลือก สว.ระดับประเทศ โดยย้ำว่าผู้สมัครไม่สามารถโพยจดหมายเลขการลงคะแนนให้กับผู้สมัครอื่นเข้าไปในการลงคะแนนได้ แต่ทาง กกต. จะมีเอกสารแนะนำตัวสมัคร หรือ สว.3 เป็นคู่มือให้กับผู้สมัคร สามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการลงคะแนนได้ ทั้งในแบบการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ และการเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม รวมถึงในระหว่างการจับสลากแบ่งสายเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม จะมีช่วงเวลาพักให้ผู้สมัครสามารถทำความรู้จักกันได้ และสามารถนำเอกสารดังกล่าวเข้าไปในคูหาได้
ส่วนกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธาน กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงนั้น ประธาน กกต. ชี้แจงว่า การรับรองคุณสมบัตินั้น ผู้สมัครจะต้องรับรองความรู้และความเชี่ยวชาญของตนเองไม่น้อยกว่า 10 ปี และต้องมีผู้รับรองอีกชั้นหนึ่งด้วย โดยนำเอกสารการรับรองดังกล่าวมาให้ผู้อำนวยการเลือกในระดับอำเภอตรวจสอบ หากไม่มีข้องสงสัยก็สามารถรับสมัครได้ แต่หากพบภายหลังว่าคุณสมบัติไม่เป็นความจริง ผู้สมัครและผู้รับรองจะมีความผิด และหากการใช้ข้อมูลพยานหลักฐานเป็นเท็จก็ต้องดำเนินคดีด้วย
ส่วนกรณีกระแสข่าวผู้สมัครจับกลุ่มฮั้วกัน โดยพักที่โรงแรมที่เดียวกันนั้น ประธาน กกต. ยอมรับว่า สามารถมองได้ 2 ทาง เนื่องจากเป็นเรื่องปกติ ที่การจัดให้มีการเลือกระดับประเทศที่เดียวกันที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สมัครอาจจะพักที่เดียวกันเพื่อความสะดวก แต่การรวมกลุ่มถือเป็นสิ่งต้องสงสัย กกต. ก็มีการติดตามความเคลื่อนไหว และระมัดระวัง หากพบพยานหลักฐานชัดเจนจนนำไปสู่การจับกุมได้ กกต. จะดำเนินการ และขอให้ประชาชนที่มีหลักฐาน ได้ส่งหลักฐานมายัง กกต. เพื่อช่วยกัน และ กกต. ไม่อยากละเลยการทำหน้าที่ และในอีกมุมหนึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ผู้สมัครแนะนำตัวกันได้อย่างกว้าวขวาง ตามคำวินิจฉัยศาลปกครอง จึงถือเป็นธรรมชาติของผู้สมัครที่หาโอกาสพบกัน แต่ยืนยันว่า กกต. ก็มีสายข่าว และมีการป้องปรามการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายการล็อบบี้ต่างๆ
ประธาน กกต. ยืนยันว่า กระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย และทีมสนับสนุนก็ทำงานด้วยความตั้งใจ ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจน กกต. ได้ขอให้สำนักงานจังหวัดให้คำแนะนำแก่ผู้สมัครตั้งแต่ระดับเภอ รวมถึงในกรณีที่ผู้สมัครเห็นว่าการนับคะแนนไม่ถูกต้อง สามารถทักท้วงระหว่างการนับคะแนนได้ หากกรรมการตรวจนับคะแนนชี้แจงแล้วยังไม่เป็นที่พอใจ ผู้สมัครสามารถเขียนคำร้องมายัง กกต. เพื่อวินิจฉัยอีกครั้งจากหลักฐานและกล้องวงจรปิด หากพบว่าการโต้แย้งของผู้สมัครถูกต้องจะให้มีการลงคะแนนใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ โดยการนับคะแนนและการขานคะแนน ตนเองได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการช้าๆ ชัดๆ ขานคะแนนให้ชัดเจน เพื่อความโปร่งใส ยึดระเบียบ ไม่ใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ.-319-สำนักข่าวไทย