ทำเนียบรัฐบาล 23 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2560 แนะเพิ่มการให้ทุนการศึกษา ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมพัฒนายืนยันให้ความสำคัญประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ได้เอื้อประโยชน์เฉพาะอุตสาหกรรมใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2560 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนามาตรฐานการประกอบการในด้านต่าง ๆอย่างมีศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถทางด้านการผลิตการแข่งขันพร้อมก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 28 ราย ประกอบด้วย รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล ได้แก่ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 7 ประเภท รวม 27 รางวัล ซึ่งปีนี้เป็นการจัดมอบรางวัลเป็นปีที่ 25 แล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีผู้ที่ได้รับรางวัล โดยขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาจัดรางวัลเพิ่มเติม เพื่อเป็นกำลังใจกับทุกภาคส่วน เพราะภาคเอกชนเป็นกำลังสำคัญในการหารายได้เข้าประเทศคู่กับรัฐวิสาหกิจ ผ่านการอำนวยความสะดวกของระบบราชการ วันนี้หลายอย่างต้องปรับเปลี่ยน ผ่านการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน แต่หลายคนยังไม่เข้าใจ ดังนั้น จะใช้เพียงการประสัมพันธ์อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องให้ทุนการศึกษาและสร้างห่วงโซ่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับการปฏิรูปประเทศไปด้วย ขณะเดียวกันรัฐบาลยังต้องการสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนรากหญ้าควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างเดิมที่เป็นแหล่งจ้างงาน จึงจำเป็นต้องทราบกลุ่มแรงงานที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการอย่างชัดเจน ขอภาคแรงงานยกระดับแรงงานให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพในประเทศให้มากขึ้น
“วันนี้ต้องพัฒนา 5 อุตสาหกรรมใหม่หรือนิวเอสเคิฟ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ ขณะเดียวกันต้องดูแลอุตสาหกรรมเดิมที่เป็นพื้นฐานของประเทศด้วย ทุกส่วนต้องสื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และฝากให้ช่วยดูแลฐานรากของประเทศ ด้วยการสร้างความเชื่อใจระหว่างกัน ที่สำคัญอยากให้ช่วยชี้แจงว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นมาจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคกับโครงการพัฒนาประเทศ ทั้งการบริหารจัดการน้ำ ขยะและพลังงาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายไทยแลนด์ +1 ซึ่งจะต้องลดความหวาดระแวงและสร้างความไว้วางในระหว่างกัน โดยรัฐบาลสนับสนุนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศในทุกกิจกรรมเพื่อให้ประเทศไทยมีที่ยืนอย่างสง่างามในเวทีโลก เพื่อนำไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนไปต่างประเทศ เนื่องจากการลงทุนในประเทศไทยมีต้นทุนสูงกว่าประเทศอื่น ไม่ใช่สาเหตุมาจากรัฐบาลนี้ ขอ ฝากภาคอุตสาหกรรมให้ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และหากมีการร้องเรียนเรื่องทุจริตจะส่งเรื่องให้ศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติตรวจสอบก่อนที่จะส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดไปตรวจสอบต่อ
“ผมพูดเยอะหาสาระยาก อย่าจับประเด็นเฉพาะเรื่องกบกับกิ๊ก ใครชอบ-ไม่ชอบให้พูด ขอให้นึกถึงภรรยาตอบเริ่มคบกัน ไปหาทุกวัน เลี้ยงข้าวทุกวัน พอวันนี้แก่แล้ว ให้ย้อนมองตัวเองว่าแก่เช่นกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย