“ยุทธพร” มอง “ก้าวไกล” รอดยาก หากเทียบคำวินิจฉัยก่อนหน้า

รัฐสภา 12 มิ.ย.- “ยุทธพร” มองการเมืองตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นรัฐประหาร แต่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ ลั่น หากปรับ ครม.อาจเห็นฝ่ายค้านครึ่งพรรค ไปร่วมรัฐบาล ชี้ “ก้าวไกล” รอดยาก เหตุเทียบคำวินิจฉัยก่อนหน้า บอก “ทักษิณ” พูดถึงคนในป่าแค่โต้ที่มา 40 สว.

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ ว่า มีหลายเรื่องบรรจบกันในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่กรณีการยุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญให้กกต.ยื่นคำชี้แจงเพิ่มเติม ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวทั้งการรัฐประหารและล้มการเลือกสว.

โดยส่วนตัวมองว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นรัฐประหาร เพราะภายใต้บริบททางการเมืองแม้ว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศยังไม่ตั้งมั่น หรือเสี่ยงเกิดการทำรัฐประหารอยู่แล้ว แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนการใช้ทหารมายึดอำนาจเหมือนเมื่อก่อน เพราะหลังๆพัฒนาการเรื่งการรัฐประหารมีไม่น้อยกว่าประชาธิปไตย

พร้อมยกตัวอย่างเมื่อปี 2549 มีการรัฐประหารแต่ได้รับการสนับสนุนโดยมวลชนที่มอบดอกไม้ให้ และปี 2557 มีการรัฐประหารในห้องประชุม มองว่า สถานการณ์ปัจจุบันอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่คงไม่สามารถล้มรัฐบาลหรือล่มการเลือกสว.ได้ ดังนั้น กรณีที่มีกระแสข่าวกระบวนการ 3 ล้ม นายยุทธพร ขอเสนอล้มที่ 4 คือขอให้คนที่คิดแบบนี้ล้มเลิกข้อเสนอ เพราะสุดท้ายสิ่งที่จะเกิดคือความขัดแย้ง จึงขอให้บ้านเมืองได้ไปต่อ

นายยุทธพร ยังมองว่าหากมีการปรับ ครม.จริง อาจมีการดึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านเข้าร่วมด้วย และอาจเห็นเหตุการณ์ร่วมรัฐบาลไม่ได้ทั้งพรรคอีกครึ่งยังเป็นฝ่ายค้าน

นายยุทธพรยังกล่าวถึงความเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคก้าวไกล ว่า มีความเสี่ยงสูง เพราะเมื่อพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในมาตรา 49 ก่อนหน้านี้ เป็นอย่างอื่นได้ยาก จึงต้องรอดูว่า 9 ข้อโต้แย้งของพรรคก้าวไกลจะฟังขึ้นหรือไม่ เพราะทั้ง 9 ข้อเป็นข้อเท็จจริง สุดท้ายถูกยุบพรรคจริง ศาลต้องตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคด้วยไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นได้

ส่วนการที่นายทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคนในบ้านป่า จะไม่ใช่การส่งสัญญาณการเปลี่ยนขั้วใช่หรือไม่ นายยุทธพรกล่าวว่า ต้องดูคดีของนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะหากพ้นจากตำแหน่ง ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งโอกาสการเปลี่ยนขั้วก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในช่วงที่พรรคก้าวไกลอาจถูกยุบด้วย ดังนั้น ทั้ง 3 เรื่องที่พูดมาสัมพันธ์กันทั้งหมด

ส่วนกรณีที่นายทักษิณพูดถึงคนในบ้านป่านั้น มองว่า เป็นการโต้ตอบจากนายทักษิณกับสว. ทั้ง 40 คน ที่เกิดจากการแต่งตั้งโดยคสช. เพื่อให้เห็นว่าใครอยู่เบื้องหลังอย่างไรเท่านั้น.-312 -สำนักข่าวไทย