เชียงใหม่ 8 มิ.ย. – นายกฯ ประชุมร่วม ผู้ว่าฯ – สส. พื้นที่ภาคเหนือ รับฟังแนวทางส่งเสริมท่องเที่ยว เร่งดันน่านเป็นมรดกโลก สั่งเข้า ครม. รอบหน้า ย้ำ ดึงเสน่ห์อัตลักษณ์ กลุ่มท่องเที่ยวภาคเหนือ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน) ที่ห้องประชุมตลาดจริงใจมาร์เก็ต โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมี สส.เพื่อไทย นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางนายทรงยศ รามสูต สส.น่าน นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ และตัวแทนภาคกลางท่องเที่ยวกรมจังหวัดเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานสรุปการท่องเที่ยวจากผู้ว่าราชการจังหวัด จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วที่ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ กว่าตอนก่อนโควิด ระยะเวลาการอยู่ยาวขึ้นเล็กน้อย แต่อยากให้อยู่นานขึ้นอีก จ.เชียงใหม่ เด่นด้านวัฒนธรรม ประเพณี เครื่องเงิน ต่างๆ เชื่อว่าเราเด่นชัดอยู่แล้ว แต่ในช่วง 7-8 เดือนเปลี่ยนไปเยอะ สนามกอล์ฟเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ เรามีหลายสนาม ฝากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ไปดูตรงนี้ด้วย รวมถึงการไปมาหาสู่เป็นเรื่องที่สำคัญ อยากให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง AOT Airline ต่างๆ ถ้ามีดีการเข้ามาจากนักท่องเที่ยวประเทศนั้นๆ อาจจะเพิ่มสลอตการบินเข้าประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดเวลาเขาเข้ามาแล้วต้องได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วย จึงขอฝากไว้มีฝ่ายความมั่นคงเข้ามาประชุมครั้งนี้ ขอเน้นย้ำตรงนี้ให้ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่กีฬาปีนเขาที่มีการเสนอ เพราะมีคนนิยมชมชอบสูงมาก ตรงนี้เห็นด้วยและเข้าใจว่าเวลานักท่องเที่ยวมาครั้งหนึ่งนานมาก นอกจากนี้ยังมีที่ จ.ราชบุรี อีก ที่ตนไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เขางูก็สามารถทำให้เป็นที่ปีนเขาได้ ทีมงานกำลังทำอยู่ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แต่ในส่วนของเชียงใหม่ ผู้ว่าฯบอกว่าอยู่ในความดูแลและความรับผิดชอบสามารถที่จะเปิดใหม่ได้ ก็ขอให้ดำเนินการตรงนี้ด้วย
ส่วนจ.ลำพูน นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า มีศักยภาพสูง มีสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนเยอะมาก มีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม มีความโดดเด่น เรื่องของการไปมาหาสู่เราชัดเจน มีสนามบินที่เชียงใหม่ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับและต้องมาดูภาพใหญ่ของเศรษฐกิจว่าจริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของจังหวัดอยู่ต่ำมาก และตกลงเรื่อยๆ คนก็ย้ายออกเยอะ กลายเป็นเมืองมีแต่คนแก่เหมือนไม่มีชีวิตชีวา ต้องย้ำว่าตรงนี้คือปัญหาใหญ่ของจ.ลำพูน แต่ข้อดีเรามีศักยภาพสูง อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง เชื่อว่าวันนี้หลังจากไปดูพื้นที่พบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานของตนได้ทำการบ้านมา จะมีการเสนออะไร หลายๆ อย่าง สามารถปรับโฉม จ.ลำพูน ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวได้ ซึ่งอาจจะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อาจต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายอย่าง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีทางออกมาเสนอกันต่อไป
ขณะที่จังหวัดลำปาง มีศักยภาพสูงแต่เรื่องถนน ที่ขอมาได้มีการพูดคุยแล้วอยู่ในงบปี 68 และ 69 ซึ่งเสร็จแน่นอน และขอสนับสนุนให้ฟื้นกิจกรรมสารถีรถม้า ส่วนจ.แพร่ เป็นเมืองเสริมไม่ใช่มาแข่งขันกัน แต่พูดว่าเมืองรองเป็นการได้ค่า ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวดีกว่า ดูแล้วมีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ดี ตรงนี้ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่
สำหรับ จ.น่าน ตนสนับสนุนเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็พยายามจะผลักดันควบคู่กับการอัปเกรดสนามบินให้สามารถบินได้ในเวลากลางคืน เป็นเมืองคู่แฝดหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวจะได้มาจากหลวงพระบางและทางเมืองน่านด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญนโยบายหลักของรัฐบาลอยากให้คนมาเที่ยวจากลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ถ้า จ.น่าน เป็นมรดกโลกได้ อย่างอื่นก็จะตามมา โดยเฉพาะสนามบินที่ต้องการให้เป็น International ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป อาจจะขอให้ทีมงานสั่งการในที่ประชุม ครม. ให้กระทรวงวัฒนธรรม ผลักดันให้ จ.น่าน เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งเชื่อว่านายเสริมศักดิ์ได้เดินเรื่องไว้แล้ว
“อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกหนึ่งขับเคลื่อนและเป็นตัวกลางในการประสานทุกฝ่ายทำงานขับเคลื่อนข้าราชการและส่วนต่างๆ พร้อมฝากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่ง อบจ. ก็เป็นส่วนสำคัญอยากให้มีการประสานงานให้ดี” นายกรัฐมนตรี ระบุ.-316 -สำนักข่าวไทย