ชุมพร 5 มิ.ย. – รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและตัวแทนเกษตรกร ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตาม กำกับดูแลการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมการรับซื้อของโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันทุกแห่ง
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการและมีนโยบายให้กรมการค้าภายใน กำกับดูแลราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่เกษตรกรและเป็นการยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย อธิบดีกรมการค้าภายใน จึงได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายในร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และตัวแทนเกษตรกร ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามกำกับดูแลการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ให้มีการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันของผู้ประกอบการโรงสกัด ตามมติที่ประชุมหารือในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 67 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (5 มิ.ย.) จากข้อมูลการแจ้งหยุดรับซื้อจากพาณิชย์จังหวัดพบว่ามีการรับซื้อทุกราย ยกเว้นจังหวัดชุมพรที่มีการแจ้งหยุดรับซื้อ 1 ราย จึงได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร และตัวแทนเกษตรกรตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าเหตุเนื่องมาจากโรงงานต้องบริหารการสกัดผลปาล์มน้ำมันที่คงค้างบนลาน ให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มของโรงสกัดและไม่ให้เกิดผลกระทบกับคุณภาพของน้ำมันปาล์ม หลังจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งโรงสกัดดังกล่าวจะเริ่มเปิดรับซื้อในวันที่ 5 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป สำหรับแนวโน้มปริมาณผลปาล์มที่มีปริมาณลดลง การติดคิวหน้าโรงงานเริ่มลงลดลง จะติดไม่เกิน 1 วัน ก็สามารถลงหมด ซึ่งก่อนหน้านี้จะติดคิว 2-3 วัน
ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้ ขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มยืดระยะเวลาการตัดออกไป และตัดปาล์มสุกเต็มที่ เพื่อให้ได้ราคาดีและจะได้น้ำหนักเพิ่มด้วย นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการโรงสกัดน้ำมันปาล์มปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจนและเปิดเผย รวมถึงให้เป็นไปตามแนวทางฯ ตามมติที่ประชุมที่ได้หารือกันไว้ จึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการว่าอย่ามีพฤติกรรมกดราคารับซื้อหรือรับซื้อที่เป็นการเอาเปรียบเกษตรกร เพราะกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่แสดงราคารับซื้อ หรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตรรวมทั้งทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกรสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.-514-สำนักข่าวไทย