fbpx

กสทช.เร่งสางเบอร์โมบายแบงก์กิ้งต้องสงสัย

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – กสทช. เผยเร่งสางเบอร์โมบายแบงก์กิ้งแปลกปลอมและต้องสงสัย ตั้งทีมร่วม ปปง. และธนาคารต่างๆ มุ่งกำจัดซิมผีที่อยู่ในความครอบครองของมิจฉาชีพ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่ กสทช. เป็นตัวกลางคัดกรองเบอร์ที่ผูกโมบายแบงก์กิ้งให้ตรงกัน ซึ่งระหว่างนี้ใช้โมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ ยังไม่มีการระงับ


พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ กล่าวว่า ขณะนี้ กสทช. กำลังตรวจสอบคัดกรองบัญชีธนาคารสามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง (ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารซึ่งออกมาตรการว่า เจ้าบัญชีธนาคารและเบอร์โมบายแบงก์กิ้งต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน ในระหว่างนี้โมบายแบงก์กิ้งยังใช้งานได้ตามปกติ โดยยังไม่มีการระงับการทำธุรกรรมออนไลน์แต่อย่างใด

นโยบายดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคาร ให้สำนักงาน กสทช. เป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการตรวจสอบข้อมูล ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหามิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมออนไลน์


สำหรับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่มีกว่า 130 ล้านหมายเลข ส่วนโมบายแบงก์กิ้งมีประมาณ 106 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การตรวจสอบต้องใช้เวลานาน โดยไม่แน่ใจว่า 4 เดือน จะแล้วเสร็จหรือไม่ แต่สำนักงาน กสทช.จะเร่งดำเนินการ เมื่อตรวจสอบคัดกรองแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นหน้าที่ของธนาคาร ซึ่งจะพิจารณาว่าจะให้ผู้ถือบัญชีธนาคารรายใดมาเปลี่ยนเพื่อให้ตรงกับเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง

ทั้งนี้ เป้าหมายในการตรวจสอบ คือ คัดกรองเบอร์โมบายแบงกิ้งที่ผูกกับ “ซิมผี” ที่มีการปลอมแปลงเอกสารมาเปิดใช้ซิมเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ บัญชีที่นำมาผูกกับ “ซิมผี” ก็เป็น “บัญชีม้า” ซึ่งเปิดไว้เพื่อรองรับการโอนเงินที่ผิดกฎหมาย เมื่อถูกตำรวจจับ ผู้ถือบัญชีจึงมีช่องปฏิเสธว่า ไม่ทราบว่าซิมที่มาผูกกับบัญชีธนาคารเป็นซิมของใคร อีกทั้งยังมีลักษณะที่ว่า ซิมเดียวผูกกับบัญชีโมบายแบงก์กิ้งนับสิบบัญชี จึงสามารถถ่ายโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่งเป็นทอดๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น หากคัดกรองและกำหนดให้เจ้าของซิมและเจ้าของบัญชีเป็นคนเดียวกัน จะปิดช่องทางที่บัญชีม้าจะปฏิเสธว่าไม่ทราบที่มาที่ไปของเงินในบัญชีไม่ได้ และจะถูกดำเนินคดีตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนั้น มาตรการนี้จึงเป็นมาตรการสำคัญในการสกัดซิมผีบัญชีม้าในระบบการโอนเงินออนไลน์


ขั้นตอนการคัดกรองโมบายแบงก์กิ้ง มีดังนี้

1. ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทรโมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด

2. ปปง. รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.

3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง. นำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคารทราบ

ส่วนที่ในระยะนี้มีผู้ใช้บริการผ่านหมายเลขโทรศัพท์ (ซิมการ์ด) ที่ชื่อไม่ตรงกับบัญชีธนาคาร เกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถทำธุรกรรมได้ จึงรีบติดต่อธนาคารเพื่อเปลี่ยนให้ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สุจริตชนพึงกระทำให้ถูกต้อง จะทำให้บัญชีโมบายแบงก์กิ้งที่เหลืออยู่และไม่ตรงกับซิมการ์ด ตรวจสอบง่ายขึ้นว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่

มาตรการตรวจสอบคัดกรองดังกล่าว เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ โดย ปปง. ซึ่งอยู่ในคณะอนุกรรมการชุดนี้ด้วย ระบุว่า หากมีเหตุผลเพียงพอ สามารถอธิบายความจำเป็นในการใช้งานได้ จะเป็นดุลยพินิจของธนาคารให้การพิจารณายกเว้น ไม่ระงับการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เช่น การเปิดโมบายแบงก์กิ้งให้กับบุตรหลานที่เป็นเด็กหรือเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เบอร์องค์กรที่แสดงตัวตนได้ชัดเจน เป็นต้น

อีกทั้งในเร็วๆ นี้ สำนักงาน กสทช. จะประชุมหารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ต้องเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองให้ตรงกับโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนเกินจำเป็น โดยให้มีรายการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุด

ส่วนผลการยืนยันตัวตนของผู้ถือครองซิมตั้งแต่ 6 หมายเลขขึ้นไป ตามประกาศ กสทช. โดยกลุ่มที่ 1 ตั้งแต่ 6-100 หมายเลข จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ส่วนกลุ่มที่ 2 ตั้งแต่ 101 หมายเลขขึ้นไป ได้ครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด กสทช. ระงับซิมที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ไปแล้วถึง 2,137,465 เลขหมาย.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน