กทม. 19 พ.ค.-นิด้าโพล ชี้ประชาชนหนุนกัญชาเป็นยาเสพติด แต่ขอให้ชดเชยผู้ปลูก ผู้ประกอบการ
นิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง กัญชาเป็นยาเสพติด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับกัญชาเป็นยาเสพติด พบว่า ร้อยละ 53.74 ระบุว่า เป็นยาเสพติดแต่ก็มีประโยชน์ รองลงมา ร้อยละ 33.59 ระบุว่า เป็นยาเสพติดและไม่มีประโยชน์ใดๆ ร้อยละ 11.60 ระบุว่า ไม่เป็นยาเสพติด
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการกำหนดนโยบายกัญชาของรัฐบาล พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 74.58 ระบุว่า เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการรักษาโรค รองลงมา ร้อยละ 19.39 ระบุว่า รัฐบาลไม่ควรออกนโยบายใด ๆ เพื่อสนับสนุนกัญชา/ผลิตภัณฑ์กัญชา ร้อยละ 10.53 ระบุว่า เพื่อสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมาย ร้อยละ 7.40 ระบุว่า เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้ประชาชนทั่วไป ร้อยละ 3.21 ระบุว่า เพื่อสนับสนุนความบันเทิงในสังคม เช่น การเสพกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมาย การมีบุหรี่กัญชา เป็นต้น
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อการนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดอีกครั้ง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 60.38 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 15.27 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 14.50 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 8.93 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ปลูกกัญชาหรือนักธุรกิจกัญชา หากรัฐบาลนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดอีกครั้ง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 46.95 ระบุว่า รัฐบาลไม่ควรจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ใดเลย รองลงมา ร้อยละ 35.03 ระบุว่า รัฐบาลควรจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ปลูกกัญชาและนักธุรกิจกัญชา ร้อยละ 10.08 ระบุว่า รัฐบาลควรจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ปลูกกัญชาเท่านั้น ร้อยละ 2.06 ระบุว่า รัฐบาลควรจ่ายค่าชดเชยให้กับนักธุรกิจกัญชาเท่านั้น
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชาของประชาชน พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 68.93 ระบุว่า ไม่เคยมีประสบการณ์ใด ๆ เกี่ยวกับกัญชา ขณะที่ร้อยละ 31.07 ระบุว่า เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชา เมื่อพิจารณาตัวอย่างที่ระบุว่า เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชา (จำนวน 407 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 52.58 เคยมีประสบการณ์การใช้กัญชาเพื่อประกอบอาหารหรือเครื่องดื่ม รองลงมา ร้อยละ 34.64 ระบุว่า การเสพหรือสูบกัญชา ร้อยละ 22.36 ระบุว่า การใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค ร้อยละ 15.97 ระบุว่า การปลูกกัญชา และร้อยละ 0.98 ระบุว่า การแปรรูปผลิตภัณฑ์กัญชาในเชิงพาณิชย์ และการค้ากัญชา ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ด้านท่าทีนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีต รมว.สาธารณสุข เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ต้องมาดูสถานะว่า กัญชาที่ถูกปลดล็อกมา 2 ปี มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร คนที่ลงทุนจากพืชกัญชา กัญชง จะเยียวยาไหวหรือไม่ ในตอนนั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พิจารณาในช่วงนั้นต่างกับข้อมูลในปัจจุบันอย่างไร สิ่งเหล่านี้ต้องเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่อย่าไปบอกว่า ผมหงอ ผมยอม ไม่เกี่ยวกับเรื่องยอมหรือไม่ยอม แต่เป็นเรื่องประโยชน์ของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาท่าทีของนายอนุทิน ไม่เคยยอมกับนโยบายกัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วใครบอกว่าเที่ยวนี้ผมยอม เคยเห็นผมยิ้มๆ แบบนี้ ผมยอมหรือเปล่า.-สำนักข่าวไทย