ภูมิภาค 10 ส.ค.-กรมชลประทานเฝ้าติดตามการระบายน้ำและการพร่องน้ำของแต่ละเขื่อนสำคัญๆ ทั้งในภาคอีสาน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะที่บางจังหวัดในภาคอีสานน้ำยังท่วมสูง
เจ้าหน้าที่แขวงการทางนครพนมระดมกำลังนำเครื่องจักรอุปกรณ์เข้าซ่อมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วม โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 212 หลักกิโลเมตรที่ 248 นครพนม-บ้านแพง-บึงกาฬ เขตบ้านประทาย ที่เกิดการทรุดตัว หลังลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม แม่น้ำสายหลักของแม่น้ำโขงมีปริมาณน้ำเกินความจุ ขณะนี้ชาวบ้านต้องนำเรือท้องแบนสัญจรไป-มา กองทัพเรือยังเร่งนำเรือผลักดันน้ำกว่า 40 ลำ ผันน้ำลงแม่น้ำโขง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ทหาร มทบ.27 วิเคราะห์สถานการณ์น้ำเขื่อนชีกลาง ประเมินสถานการณ์การระบายน้ำ หลังยกบานประตู 6 บานจนสุด แต่ระดับน้ำยังไม่ลดตามความต้องการ จึงเสริมเครื่องดันน้ำของชลประทานอีก 10 เครื่อง เร่งการไหลของน้ำให้เร็วขึ้น หวั่นน้ำท่วมขังจนเน่าเสีย หากน้ำลำปาวและเขื่อนตอนบนมาเร็วเกรงพื้นที่การเกษตรจะเสียหายหนักกว่าเดิม
ชาวบ้านริมแม่น้ำชี จังหวัดยโสธร ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร ถนนในหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ สมาคมชาวยโสธรและคณะเร่งลงพื้นที่บ้านเหมือดขาว บ้านบัวขาว นำถุงยังชีพไปช่วยเหลือเบื้องต้น และยังมีศิลปินหมอลำมาร่วมขับกล่อมเพลงให้ฟัง เพื่อเป็นการคลายเครีย
แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำเหนือจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลลงสู่แม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ขณะนี้อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร บางจุดระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่อง สำนักงานชลประทานที่ 3 เตรียมบิ๊กแบ็กกระสอบทรายเพื่ออุดรูรั่วไม่ให้น้ำเข้ามาในพื้นที่เขตเทศบาลได้
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานเร่งบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำน่าน เพื่อลดผลกระทบผู้ที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อน และขอให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเฝ้าระวังสถานการณ์ ฟังการแจ้งเตือนจากหน่วยงานใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กรมชลประทานเร่งพร่องน้ำในคลองต่างๆ เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือและน้ำฝน ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานีวัดน้ำบางไทรยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่น่าห่วง.-สำนักข่าวไทย
