รัฐสภา 3 เม.ย. – “ภูมิธรรม” ท้วงการอภิปรายฝ่ายค้าน ใช้คำเหน็บ-ส่อเสียด-โวหารวาทกรรม ทำให้ ลดคุณค่าการอภิปรายให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล โดยรัฐบาลจะนำแก่นที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศมาใช้และทิ้งสิ่งที่เป็นกาก แจงการส่งออกรัฐบาลนี้เพิ่มขึ้น ย้ำรัฐบาลยังไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินบริหารประเทศ โดยที่ใช้ไปส่วนใหญ่เป็นงบเงินเดือนข้าราชการ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลุกขึ้นชี้แจง ขอบคุณการอภิปรายตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 152 รวมถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านในการติติงวิจารณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อกันในการร่วมแก้ไขปัญหา แต่น่าเสียดายการอภิปรายของฝ่ายค้านบางคนมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดูเหมือนถูกลดความสำคัญลง เพราะคำเหน็บ ส่อเสียดโวหารวาทกรรมต่างๆ โดยไม่ได้สร้างบรรยากาศในการช่วยกันคิดแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ ทำให้ข้อเสนอที่เสนอมาลดคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย แต่รัฐบาลพยายามที่จะนำประเด็นต่างๆโดยทิ้งสิ่งที่เป็นกากและนำสิ่งที่เป็นแก่นมาใช้ประโยชน์ในการบริหารประเทศให้มากขึ้น
มีการกล่าวหานายกรัฐมนตรีเดินสายในต่างประเทศโดยใช้คำว่า “ ไม่แน่ใจว่าทำหน้าที่การตลาดหรือการตลก” เชื่อว่าผู้อภิปรายรู้ดีว่าตลอดช่วงที่ที่ผ่านมา คณะรัฐประหารสร้างความเสียหายให้กับชาติ โดยสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพยายามทำคือการแก้ไขปัญหาเพื่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจหากมีความเชื่อมั่นก็จะยินดีที่จะร่วมลงทุนในไทยไทย
“ผมเสียดายและเสียใจนิดหนึ่งแทนที่จะให้กำลังใจกัน กลับมากล่าวหาและสร้างความไม่เชื่อใจความไม่มั่นใจกันเสียเอง โดยไม่ได้คำนึงว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำ เจตนาและความพยายามทำทั้งหมดส่งผลดีอย่างไรกับประเทศ ความจริงอย่างน้อยข้อสรุปขั้นต้นที่ท่านได้เห็นบริษัทใหญ่ๆ ในต่างประเทศหลายประเทศมีการเซ็นเอ็มโอยู และมาเยี่ยมเยียนดูลู่ทางในการแก้ไขปัญหา ในท่านบอกว่าเศรษฐกิจยังมีปัญหาไปถึงไปชวนมาลงทุนอันนี้เป็นการโกหกตัวเองหรือเปล่าหรือหลอกตัวเอง เชื่อว่าท่านไม่เข้าใจพลวัตของความเปลี่ยนแปลงในประเทศ ความจริงประเทศเรามีวิกฤตและมีปัญหาจริงแต่สิ่งที่ดีของประเทศเรามีศักยภาพในการพัฒนา นายกออกไปพูดว่าขณะนี้ประเทศกำลังเป็นประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนสิ่งเดิมที่เป็นปัญหาที่ต่างชาติไม่ยอมรับและมาคุยเป็นเรื่องของรัฐบาลประหารวันนี้รัฐบาลประชาธิปไตยมาจากประชาชน“ นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวถึงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านว่ารัฐบาลมีการคอรัปชั่นโดยยืนยันว่าทุกเรื่องสามารถตรวจสอบได้ เพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาประชาชนและสื่อมวลชน กระทรวงพาณิชย์ได้พิสูจน์ให้ได้เห็นว่ารัฐบาลสามารถทำงานได้โดยที่ไม่ได้ใช้เงิน โดยได้นำผู้มีชื่อเสียงในซีรีย์วายมาร่วมโปรโมท ซึ่งไม่ได้ใช้เงินสักบาท แค่ใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งเทศบาล ตำรวจ โดยกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งมา 100 กว่าปี เพียงคืนเดียวสามารถเป็นที่รู้จักติดแฮชแท็กอันดับหนึ่งของโลก
“และที่กล่าวหาว่ามีเงินจำนวนมากแต่รู้จักทำงานได้ชี้แจงว่าเงินจำนวนมากที่รัฐบาลได้ใช้ไปก่อนเป็นงบประมาณเกี่ยวกับเงินเดือนข้าราชการเกือบทั้งหมด ส่วนเงินลงทุนหรือเงินเก็บต่างๆยังไม่มี ขอฝ่ายค้านพูดอย่างตรงไปตรงมาและตรงกับข้อเท็จจริง อย่าพูดแค่เป็นพิธีกรรม” นายภูมิธรรมกล่าว
และชี้แจงเรื่องการส่งออกในช่วงนี้เป็นช่วงย่ำแย่ว่า ในการส่งออกปี 2565-2566 ก่อนที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศการส่งออกติดลบ -3.7% และนับจากรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้น 4.8% และมูลค่าการส่งออกของไทยตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดียวกันเฉลี่ย +5.4% อีกทั้งรัฐบาลยังเปิดประตูตลาดใหม่และรักษาตลาดเดิม มีการเยือนประเทศคู่ค้าทางยุทธศาสตร์ หลังจากนายกรัฐมนตรีไปเยือนจีนและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เปิดส่วนกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ตามไปเป็นเซลล์เก็บรายละเอียดจากนายกรัฐมนตรี ภายใต้การทำงานทีมประเทศไทยและทีมกระทรวงพาณิชย์ที่ดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม 6-7 เดือนที่ผ่านมา
ก่อนทิ้งท้ายว่าการอภิปรายในครั้งนี้เป็นการอภิปรายให้ข้อเสนอแนะติติงและตั้งคำถาม โดยไม่ใช่การอภิปรายในลักษณะอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยต้องการให้ฝ่ายค้านตั้งใจช่วยกันเพราะประเทศชาติเป็นของทุกคนไม่ใช่เป็นของคนใดคนหนึ่ง และไม่ต้องการเห็นฝ่ายค้านใช้เวทีนี้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คิดว่าไม่ว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลสามารถร่วมงานกันได้ หากทำงานร่วมกันก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งนายชุติพงษ์ พิภพภิญโญ สส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วง ใช้เวลาอภิปราย ซึ่งประธานในที่ประชุมวินิจฉัยว่ายังอยู่ในประเด็นการชี้แจง ซึ่งเป็นการชี้แจงตั้งแต่ประเด็นอภิปรายช่วงเช้าที่ผ่านมา – 313.-สำนักข่าวไทย