ระยอง 7 ส.ค.-แม่ชีวัย 85 หวิดถูกงูเหลือมขนาดใหญ่ยาวกว่า 6 เมตรเขมือบ โชคดีชายตาบอดวัย 60 ที่พักอยู่กุฏิใกล้กันได้ยินเสียงแม่ชีร้องขอความช่วยเหลือ จึงตะโกนเรียกพระสงฆ์ในวัดออกมาช่วยได้ทัน ก่อนงูเหลือมจะเขมือบแม่ชีลงท้อง
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภายในกุฏิแม่ชีในวัดปากแพรก หมู่ 1 ตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง โดยแม่รายดังกล่าวคือแม่ชีชิน หรือติ๊ด ดาราจันทร์ วัย 85 ปี วันนี้ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพระสุเทพ อนารโย พระลูกวัด ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เข้าไปช่วยชีวิตแม่ชี เล่าว่า กำลังจำวัตร ได้ยินเสียงเรียกจากพระประภาสศิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัด ให้ปลุกพระลูกวัดออกไปช่วยแม่ชีถูกงูเหลือมรัดและกำลังจะกินอยู่ในกุฏิท้ายวัด จึงรีบพากันเดินทางไปช่วย เมื่อเข้าไปถึงต้องผงะ เมื่อเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่กำลังรัดร่างของแม่ชีชินจนเกือบมิดร่าง เนื่องจากแม่ชีตัวเล็กสูงเพียง 120 เซนติเมตร นอนกลิ้งอยู่กับพื้นปูนทางเดินภายในกุฏิ โดยแม่ชีจับกำหางงูเอาไว้แน่น เพราะงูกำลังจะเอาหางแหย่เข้าปากเข้าจมูก จากนั้นจึงให้พระลูกวัดช่วยกันนำไม้มากดหัวงูเอาไว้ ก่อนที่จะจับหางงูและแกะตัวงูที่รัดพันร่างของแม่ชีชินออก พร้อมประสานให้กู้ภัยปลวกแดง มาช่วยแม่ชีนำส่งโรงพยาบาลปลวกแดง เพื่อให้แพทย์ช่วยทำบาดแผล ถูกงูกัดจนขาด้านซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ แพทย์ต้องเย็บถึง 10 เข็ม ส่วนงูเหลือมได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติ
ด้านพระครูประภาสศิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดปากแพรก ยอมรับบริเวณท้ายวัดเป็นป่าค่อนข้างรกเนื้อที่เกือบ 10 ไร่ ที่ผ่านมาได้มีผู้คนนำงูมาปล่อย และเคยพบเห็นอยู่หลายตัว แต่ไม่คิดว่างูจะออกมากัดกินคน เคยได้ยินแต่แม่ชีและพระลูกวัด เล่าให้ฟังว่า งูออกมากินสุนัขและแมวในบริเวณกุฏิชายป่าประจำ จนไม่มีแมวสุนัขเข้าไปอยู่ในบริเวณนั้นเพราะกลัวจะถูกงูเหลือมกินเป็นอาหาร อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุขึ้น ทางวัดจะเข้าไปแผ้วถางป่าบริเวณหลังวัดออก เพื่อไม่ให้รกทึบเกินไป เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่จับงูที่หลงเหลืออยู่ในบริเวณป่าไปล่อยไว้ที่อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้งูออกมาก่อความเดือดร้อนอีกต่อไป
ด้านนายบุญเลิศ เฉียบแหลมดี ผู้เฒ่าตาบอดวัย 60 ปี ที่ไปปฏิบัติธรรมถือศีลและพักอยู่ห้องติดกับแม่ชี ซึ่งเป็นคนที่ตะโกนขอให้คนมาช่วยแม่ชี เล่าว่า รู้สึกตัวขึ้นมาเนื่องจากได้ยินเสียงของแม่ชีชิน ล้มลงกับพื้น จึงตะโกนถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ชีชินบอกว่า ถูกงูกัดและงูรัด จึงได้ตะโกนเรียกแม่ชีที่อยู่กุฏิใกล้ และไปตามคนมาช่วยดังกล่าว
ส่วนแม่ชีชิน ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่กับบ้านหลานสาวที่อยู่ใกล้กับวัดปากแพรก โดยแพทย์ได้อนุญาตให้กลับตั้งแต่วันแรก ขณะนี้แม่ชี อาการดีขึ้นแล้ว บาดแผลไม่มีอาการบวมหรืออักเสบแต่อย่างใด โดยมีบรรดาญาติโยมเดินทางไปเยี่ยมเยียนสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ต่อเนื่อง
แม่ชีชิน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุปวดปัสสาวะ เลยเดินออกไปจะเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ถึงห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังกุฏิ ได้ถูกงูเหลือมฉกขาจนตัวเองล้มลงกับพื้น จากนั้นงูได้รัดร่างของตนเอง พยายามดิ้นและร้องขอความช่วยเหลือแต่สู้แรงงูไม่ได้ งูได้รัดร่างจนกระดูกตัวเองลั่น และพยายามจะใช้หางแหย่เข้าปากเข้าจมูก ตนพยายามใช้มือจับกำหางงูเอาไว้ เพื่อไม่ให้เอาหางแหย่เข้าปาก โชคดีที่นายบุญเลิศ ผู้เฒ่าตาบอดที่พักอยู่ห้องติดกันได้ยินเสียงร้องของตน ออกมาช่วยตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้ตัวเองรอดตายหวุดหวิด แต่อย่างไรก็ตามแม่ชีชิน บอกว่า หากบาดแผลหายดีจะกลับไปอยู่กุฏิหลังเดิมเช่นเคย เพราะเคยอยู่อาศัยมากว่า 20 ปีแล้ว นอกจากนี้จากการสอบถามแม่ชีชิน ในช่วงที่ถูกงูรัดร่างอยู่นั้น แทบจะขาดใจอยู่แล้ว คิดอะไรอยู่ในใจบ้าง แม่ชีชิน บอกว่า ไม่ได้คิดอะไรมีแต่ร้องขอความช่วยเหลือเท่านั้น และยังได้พูดขอร้องกับงูด้วยว่า ให้ปล่อยซะและให้ออกไป แต่งูไม่ยอมปล่อย.-สำนักข่าวไทย