ฮ่องกง 19 มี.ค. – โรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศจีนหยุดการให้บริการทำคลอดในปีนี้ เนื่องจากความต้องการบริการด้านนี้ลดลงเรื่อย ๆ ท่ามกลางตัวเลขอัตราการเกิดของทารกลดลงต่ำเป็นประวัติการณ์
เดลี อีโคโนมิค นิวส์ สื่อของทางการจีนรายงานว่า โรงพยาบาลในหลายมณฑลชองจีน ทั้งเจ้อเจียงทางตะวันออก และเจียงซี ทางใต้ของประเทศ ได้ประกาศในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่า จะปิดแผนกสูติกรรม โดยโรงพยาบาลฟิฟท์ พีเพิ้ลส์ ฮอสพิทอล (Fifth People’s Hospital) ในเมืองก้านโจว ของมณฑลเจียงซี กล่าวผ่านทางบัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชัน วีแช็ตว่า จะระงับบริการทำคลอดตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลเจียงซาน ในมณฑลเจ้อเจียงประกาศยุติบริการทำคลอดตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ข้อมูลล่าสุดของคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุว่า โรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญการดูแลสตรีระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตรลดลงจาก 807 แห่งในปี 2020 เหลือ 793 แห่งในปี 2021 ส่วนสื่อท้องถิ่นรายงานว่า จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงทำให้หลายโรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินกิจการแผนกสูติกรรมได้
การประกาศหยุดบริการดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ ผู้บริการระดับกำหนดนโยบายของจีนกำลังหาหนทางในการผลักดันห้บรรดาคู่หนุ่ม-สาว ต้องการมีลูกมากยิ่งขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องปวดหัวกับปัญหาประชากรที่กลายเป็นสังคมผู้สูงวัยอย่างรวดเร็ว ประชากรจีนลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปี 2023 ในชณะที่อัตราการเกิดลดลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์และอัตราการเสียชีวิตสูง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ตัวเลขประชากรลดลงอีกจนเจ้าหน้าที่เกรงว่า จะส่งผลกระทบระยะยาวกับศักยภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ.-813.-สำนักข่าวไทย