กทม. 3 ส.ค.-ผบช.น.ยัน ยังไม่จำเป็นใช้”ยาแรง”แก้ปัญหานักเรียนยกพวกตีกัน ชี้เกิดคนส่วนน้อย วางทางแก้ทั้งระยะสั้น ระยะยาว
พลตำรวจโทศานิตย์ มหาถาวร กล่าวหลังประชุมวางมาตรการแก้ปัญหานักเรียนตีกันว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาแรง อย่างปิดสถาบันการศึกษาชั่วคราว จากนักเรียนก่อเหตุทำร้ายกัน ซึ่งมีเพียงส่วนน้อย หากใช้มาตรการปิดโรงเรียน จะกระทบนักเรียนส่วนใหญ่ ผู้บริการทั้ง 2 สถาบัน ระบุว่า ปัญหาไม่ได้รุนแรงไปมากกว่าในอดีต แต่เพราะปัจจุบันมีคลิปวิดีโอ มีสื่อโซเชียล ที่เผยแพร่เหตุการณ์ไปอย่างรวมเร็ว ทำให้สังคมตื่นตระหนก จึงกำชับทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา ทั้งโรงเรียน ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ชุมชน และตำรวจ โดยให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงคำสั่ง คสช. ที่ 30 ที่มีการลงโทษถึงผู้ปกครอง ผู้ให้การสนับสุนน ยุงยง มีโทษ ทั้งจำและปรับ รวมถึงให้นักเรียนคำถึงผลการกระทำ ความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังก่อเหตุ
นายเอกพล เสียงหิรัญ ผู้อำนวยกาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ยืนยัน ผู้ก่อเหตุฟันแขนนักเรียนโรงเรียนปทุมคงคา เป็นศิษย์เก่า ลาออกไปเมื่อปี 2559 ความรับผิดชอบต่อกรณีนี้ ทำได้เพียงยอมรับกับสังคมว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตลูกศิษย์ และไม่กังวลต่อการถูกแก้แค้นจากต่างสถาบัน
ส่วนสาเหตุ ที่ประชุมระบุว่า นักเรียนจาก”ปทุมคงคา”พ่นสีสเปรย์ทับตราสัญลักษณ์”เทคโนโลยีกรุงเทพ”ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ โดยผู้ถูกทำร้าย ไม่รู้ถึงสาเหตุดังกล่าวและไม่เคยมีความบาดหมางกับผู้ก่อเหตุมาก่อน สำหรับมาตรการแก้ไขเร่งด่วน ทางสถาบัน จะจัดสรรเวลาเข้าเรียน เลิกเรียน ไม่ให้เวลาตรงกัน เพื่อลดการเผชิญหน้าและขอความร่วมมือนักเรียนไม่สวมเครื่องแบบของสถาบัน ส่วนระยะยาว จะจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างสถาบัน เข้าค่ายละลายพฤติกรรม ทำความเข้าใจร่วมกัน ทั้ง สถาบัน ครอบครัว นักเรียน รุ่นพี่ เพื่อสร้างความเชื่อหรือค่านิยมที่ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย