สมุทรปราการ 21 ก.ย.- สาวกัมพูชาเป็นหนี้เงินกู้วิ่งราวสร้อยนาคราคา 4 หมื่นบาท สุดท้ายไปไม่รอด คนในตลาดพากันช่วยตามจับตัวไว้ได้
ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพชัด ขณะที่สาวกัมพูชา ทำทีมาซื้อสร้อย ดูสร้อย แต่พอสบโอกาสก็เนียนวิ่งออกจากร้านทอง เหตุเกิดขึ้นที่ร้านขายเครื่องประดับนาคและจิวเวลรี่ ในตลาด แห่งหนึ่ง ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประชาชนที่มาเดินตลาดพากันช่วยจับตัวไว้ได้ ก่อนเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี เดินทางมาตรวจสอบ พบ นางสไรโน ชอ อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา ถูกประชาชนช่วยกันควบคุมตัวไว้ พร้อมของกลาง สร้อยคอนาค จำนวน 3 เส้น มูลค่ารวมประมาณ 40,000 บาท อยู่ในมือผู้ต้องหา
จาการสอบถามนางสไรโน ชอ เล่าว่า ตนเองเป็นลูกจ้างเลี้ยงไก่ เดินทางมาจาก อ.กบินบุรี จ.สระแก้ว เมื่อเช้านี้เพื่อมาหาน้าสาวที่อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบ จึงเดินทางมาที่ตลาดดังกล่าว เนื่องจากตนเคยเอาทองมาขายที่ตลาดนี้ และทำทีเข้าไปขอดูสร้อยคอนาค จำนวน 3 เส้น เมื่อสบโอกาสจึงคว้าทองวิ่งหนี จนถูกชาวบ้านและเด็กในร้านจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถ ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะตนเป็นหนี้เงินกู้อยู่ 6 หมื่นบาท ไม่มีเงินใช้หนี้ที่ยืมมาเพื่อเลี้ยงลูก 2 คน ส่วนสามีไม่ได้ช่วยเหลือ รู้อยู่แล้วว่าสร้อยนาคดังกล่าว มีราคา ถ้าเอากลับไปขายที่ประเทศตนเองจะได้ราคาสูงพอที่จะใช้หนี้ได้ จึงลงมือก่อเหตุและโดนจับตัวไว้ได้
ด้านนายประวัติ เจ้าของร้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุทำทีมาขอดูสร้อยนาคที่ร้าน โดยพนักงานของร้านได้นำสร้อยนาคจำนวน 3 เส้น มาให้ผู้ก่อเหตุดู จากนั้นผู้ก่อเหตุได้อาศัยจังหวะที่พนักงานเผลอ หยิบสร้อยนาค จำนวน 3 เส้น วิ่งหลบหนีไป จากนั้นพนักงานจึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่อยู่ในตลาด
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี กล่าวว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 13.39 น. มีผู้ต้องหาเป็นคนสัญชาติกัมพูชา อายุ 32 ปี ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยนาค 3 เส้นหลบหนี ก่อนถูกจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบถามบอกว่าติดหนี้ ทำงานอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาหาญาติที่นี่เพื่อจะมายืมเงิน แต่ยังไม่เจอญาติจึงมาก่อเหตุ ถามว่าทำไมถึงมาขโมยนาค เขาให้คำตอบว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องทองหรือนาค แต่คิดว่ามีมูลค่า
จากการสอบถามจากทางร้านบอกว่านาคจะมีมูลค่าถ้าหากขายที่ประเทศกัมพูชา เพราะฉะนั้นถ้าเขาได้ไปแล้วนำไปขายที่ประเทศกัมพูชาสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ มูลค่าเส้นที่หนึ่งและเส้นที่สองเส้นละ 15,000 บาท เส้นที่สาม 10,000 บาท รวมแล้ว 40,000 บาท เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฉกฉวยซึ่งหน้า เลยแจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่น ซึ่งตัวเขามีบัตรทำงานในประเทศไทย .-สำนักข่าวไทย