กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – นักวิเคราะห์ประเมิน แม้ กนง.ไม่มีการประชุมนัดพิเศษ ตามที่นายกฯ เรียกร้อง เพื่อให้ลดดอกเบี้ย 0.25 สตางค์ แต่คาดว่าน่าจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งแรกของปีนี้
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่น่าจะมีการประชุมนัดพิเศษ ตามที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องขอให้ประชุมนัดพิเศษ ก่อนการประชุมนัดถัดไปที่ กนง.นัดหมาย 10 เม.ย.นี้ โดยขอให้ลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากร้อยละ 2.50 เหลือร้อยละ 2.25 แต่ด้วยบริบทที่ภาวะเงินเฟ้อไม่กดดัน ในขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยโลกที่มีแนวโน้มลดลง เช่น ดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งการประมูลพันธบัตร รัฐบาลล่าสุดมีดีมานสูง ผลตอบแทนลดลง สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้คาดว่า นโยบายดอกเบี้ยน่าจะผ่อนคลายลง และอาจจะเห็น กนง.ลดดอกเบี้ยภายในครึ่งแรกของปีนี้
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ Nikkei Asia ย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายที่ปัจจุบันอยู่ที่อัตราร้อยละ 2.50 ว่า แม้เงินเฟ้อไทยติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน และจีดีพีไทยปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.9 โดยนโยบายการเงิน ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากนัก เพราะเพราะเศรษฐกิจไทยมาจากปัญหาทางโครงสร้าง หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายมากขึ้น หรือทำให้จีนนำเข้าปิโตรเคมีจากไทยมากขึ้น หรือทำให้รัฐบาลใช้งบประมาณเร็วขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้า
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ว่าฯ ธปท. เพราะ ธปท.เป็นหน่วยงานอิสระ รัฐบาลไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ยืนยันว่าสิ่งที่เรียกร้องไปมีเหตุผล และถึงเวลาสมควรจะมีการนัดหมายกับผู้ว่าการ ธปท. เพื่อมาพูดคุยกัน ซึ่งที่ผ่านมาเคยเรียกร้องเรื่องการลดดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้งนั้น ก็ยืนยันว่าจะเรียกร้องต่อไปเป็นครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 แม้จะมีความเห็นต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือเป็นบรรยากาศที่ไม่น่าทำงานร่วมกัน พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์กับผู้ว่าการ ธปท.ว่ายังคงให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“ก็ต้องคุยต่อ พยายามต่อไป ด้วยเหตุด้วยผล ตัวเลขการชี้นำเศรษฐกิจต่างๆ ก็บ่งบอกอะไรหลายๆ อย่าง 2.5% ยังมีรูมเหลือเยอะแยะ ถ้าเกิดมีวิกฤติอะไรเกิดขึ้น 0.25% ไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้ไม่สามารถเคลื่อนนโยบายต่างๆ ได้” นายเศรษฐา กล่าว
วานนี้ (21 ก.พ.) ธปท. เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 7 ก.พ. ซึ่งบอร์ด 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี คณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ (neutral interest rate) จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอลง เป็นผลมาจากปัจจัยต่างประเทศและปัญหาเชิงโครงสร้าง ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีแรงส่งต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมาย การดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า จะพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ. -511- สำนักข่าวไทย