นายกฯ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม สั่งเร่งเยียวยา-สำรวจความเสียหาย

สกลนคร 2 ส.ค. – นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม จ.สกลนคร สั่งเร่งสำรวจความเสียหายเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุดพร้อมให้สำรวจอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เตรียมให้พร้อมรับมือน้ำและหน้าแล้ง ขอทุกคนสามัคคี อย่าขัดแย้ง


เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงสนามบินค่าย กฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร และรับฟังบรรยายสรุปปัญหา การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากอธิบดีกรมชลประทาน ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ระยะของการฟื้นฟู สำรวจความเสียหาย คาดว่าในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นจะซ่อมแล้วเสร็จในวันที่ 12 สิงหาคม และมีแนวทางปรับปรุงคันกั้นน้ำให้มีความแข็งแรงกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยประชาชนและติดตามสถานการณ์น้ำทางสื่อโดยตลอด อีกทั้งให้น้อมนำกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ขอให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างยังยืน โดยการหาแหล่งกักเก็บน้ำปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่เหมาะสม ขุดลอกทางระบายน้ำและน้อมนำแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมน้องนำกระแสรับสั่งมาปฏิบัติ 


นายกรัฐมนตรียังสั่งการขอให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนโดยเร็ว ด้วยการเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายให้ชัดเจน โดยนำเอาประชาคมมามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันปัญหาการใช้งบประมาณและการร้องเรียน ขณะเดียวกันขอให้สำรวจอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต้องบูรณะซ่อมแซมพร้อมใช้งาน และขุดลอกไม่ให้ตื่นเขิน รัฐบาลก็จะอนุมัติงบประมาณลงไปให้ดำเนินการ เพื่อให้แหล่งเก็บน้ำใช้แก้ปัญหาน้ำแล้งในช่วงหน้าแล้งด้วย โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปช่วยดูแล และจะให้ทหารไปช่วยลงมือทำเพื่อให้เร็วขึ้น

สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ให้เร่งดำเนินการทำสันเขื่อนใหม่ ปรับปรุงเพิ่มความจุน้ำให้มากขึ้น   อีกทั้งยังเน้นย้ำในเรื่องของการสร้างความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาจากประชาชน หากไม่ดำเนินการก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ต่อไปนี้ต้องร่วมมือกันอย่าสร้างความขัดแย้ง ขอให้หยุดเรื่องของการเมืองไว้ก่อน เพราะส่วนตัวไม่ได้มาจากการเมือง และพร้อมที่จะทำงานในทุกพื้นที่ให้กับทุกคน ไม่มีการแบ่งแยก 

จากนั้นเดินทางไปยังครัวพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยได้มอบถุงยังชีพและมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย รายละ 50,000 บาท พร้อมแสดงความห่วงใย เสียใจกับทุกคน ให้ทุกคนเรียนรู้บทเรียนจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ด้วย ยืนยันมาวันนี้ตั้งใจมา แต่ขอให้ทุกคนร่วมมือไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างจะผ่านไปได้หากมีกำลังใจที่ดี 

จากนั้นคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เพื่อร่วมโครงการ Big Cleaning Day ย้อมบ้านล้างเมือง ก่อนจะลงเรือเพื่อเยี่ยมประชานชนที่ประสบอุกทกภัย 

เวลาประมาณ 11.50 น. นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมสะพานเบลีย์ ที่เดิมถูกน้ำกัดเซาะ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.พังขว้าง ตรวจเยี่ยมสภาพพื้นที่ติดตามการซ่อมแซ่มอ่างเก็บน้ำที่ชำรุดจากการถูกน้ำกัดเซาะ

ขณะที่ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ บินตรวจเยี่ยมพื้นที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังสิ้นเสร็จภารกิจ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึง กทม.เวลาประมาณ 16.00 น. 

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมบนถนนสายเศรษฐกิจในตัวเมืองสกลนครลดลงต่อเนื่อง ระดับน้ำเฉลี่ยเหลือราว 30 เซนติเมตร จุดที่ท่วมสูงสุดตอนนี้คือ ย่านชุมชนหนองสนม และถนนโดยรอบ เช่น ถนนรัฐพัฒนา บรรดาร้านค้าต่างเร่งสำรวจเก็บกวาดซากอุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลทำความเข้าใจกับผู้ประสบภัยว่าไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องขยะ ส่งเจ้าหน้าที่กระจายลงเก็บทุกพื้นที่ แต่เน้นขยะที่จะเน่าเสียก่อน โดยขยะที่รวมใส่ถุงดำควรมัดให้แน่น หากหลุดจะทำให้เศษขยะกระจายขวางการระบายน้ำได้

สำหรับประชาชนที่เครียดกับสถานการณ์น้ำท่วม มีมุมมองการใช้ชีวิตของผู้ประสบภัยรายหนึ่งเป็นตัวอย่าง ชื่อคุณตาไพศาล โอนอ่อน ข้าราชการบำนาญ วัย 70 ปี อยู่ชุมชนธาตุดุม 2 ริมหนองหาน เขตเทศบาลนครสกลนคร ซึ่งถูกน้ำท่วมเป็นวันที่ 6 เช่นกัน แต่ยังคงนำจักรยานคู่ใจออกมาปั่นออกกำลังกายทุกวัน คุณตาไพศาล บอกว่า ปั่นจักรยานออกจากที่พักเพื่อคลายความเครียดไม่ขาด เพราะไม่อยากเห็นสภาพน้ำท่วม และเอาแต่นั่งจมอยู่กับความทุกข์ นอกจากนี้ตนยังไม่ดูข่าวน้ำท่วม ซึ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำให้รู้สึกทุกข์ใจมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย