แจ้งข้อหาหนักทหารยศสิบเอก สังหารโหด 2 เด็กปั๊ม

นครพนม 16 ก.พ. – แจ้งข้อหาหนักทหารยศสิบเอก หลังพิสูจน์หลักฐานชี้ชัดลงมือใช้อาวุธสงครามยิงโหด 2 เด็กปั๊ม ตำรวจยืนยันคดีนี้ไม่มีจับแพะ ขณะที่ญาติยังสงสัยมูลเหตุจูงใจ


ความคืบหน้าคดีสังหารโหด 2 พนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 22 สายนครพนม-สกลนคร พื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ผู้ตายคือ คือน.ส.วิชชุดา อายุ 50 ปี ชาวบ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม และนายพมมะจัก อายุ 33 ปี ชาวลาวแขวงบอลิคำไซย โดยทั้งคู่ถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่วันที่ 29 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 21.00 น. จากการชันสูตรศพของสถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น พบว่านายพมมะจัก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม เข้าที่หน้าผาก ส่วนนางนัน ถูกยิงในระยะเผาขนเข้าที่แก้ม กระสุนทะลุท้ายทอย แต่ยังไม่เสียชีวิตทันที จึงถูกคนร้ายบีบคอจนขาดอากาศหายใจ หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไปโดยไม่แตะต้องทรัพย์สินใดๆ

หลังเกิดเหตุตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รวมทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครพนม และกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐาน โดยเฉพาะปลอกกระสุนและหัวกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย โดยตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น เช่น ชู้สาว, ขัดผลประโยชน์, โกรธแค้นส่วนตัว หรือธุรกิจมืด พร้อมตรวจสอบเส้นทางการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ ของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมด


ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วยตำรวจ ชุดสืบสวนนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้ขอเข้าค่ายพระยอดเมือง อ.เมือง จังหวัดนครพนม เพื่อขอตรวจค้นบ้านพักของ สิบเอกกฤษณะพล อายุ 38 ปี ตำแหน่งพลขับทั่วไป ภูมิลำเนาเดิมจังหวัดอยู่ที่มุกดาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทหารคนดังกล่าว และนำมาสอบสวนก่อนหน้าแล้ว

จากการตรวจค้นบ้านพักของสิบเอกกฤษณะพล พบอาวุธสงครามเป็นปืนอาก้า 1 กระบอก และกระสุนปืนอีก กว่า 100 นัด ในเบื้องต้น เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสังหาร 2 เด็กปั๊ม แต่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดมีอาวุธปืนสงคราม เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวไปฝากขังยังศาลทหารที่มณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ไว้ก่อนระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.67) พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้เชิญ นางสุพัตรา อายุ 53 ปี นางสาววรินธร อายุ 25 ปี พี่สาวและลูกสาว ของ น.ส. วิชชุดา ผู้ตายมาพบ ที่ สภ.เมืองนครพนม เพื่อแจ้งความคืบหน้าด้านคดี โดยหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ญาติผู้ตายได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุ รวม 2 ข้อหา คือครอบครองอาวุธปืนสงคราม และแจ้งข้อหาเพิ่มคือ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยไม่บอกรายละเอียดอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ากำลังรวบรวมหลักฐานเพื่องส่งฟ้องศาล เป็นศาลทหาร เร็วๆ นี้


นางสุพัตรา กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตนได้ถามตำรวจว่า สิบเอกเป็นแพะหรือเปล่า ได้รับคำตามว่า ของจริง เพราะขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานแน่นหนาพอ แต่ยังไม่บอกรายละเอียด นางสุพัตรา กล่าวย้ำว่าตนยังคาใจอยู่ว่ามีแรงจูงใจอะไร มีเหตุอะไร ทำไมต้องฆ่า ตอนนี้ยังหนักใจเรื่องคดีกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนร้ายเป็นทหาร แล้วยังได้ขึ้นศาลทหาร ส่วน น.ส.วรินธร ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า อยากถามคนร้ายว่า แค่ฆ่าแม่ตนถึงขนาดต้องใช้มือปืนมืออาชีพมาลงมือเลยเหรอ

ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ติดต่อสอบถามรายละเอียดของคดี กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.เมืองนครพนม ก็ได้รับคำยืนยันว่า ผู้ต้องหาไม่ใช่แพะแน่นอน แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นทหาร เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความรอบคอบ และหลักฐานที่แน่นหนา จึงจะกล้าแจ้งข้อกล่าวหาได้ หลังจากนี้จะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ