“มนพร” เตรียมพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก

นครพนม 17 มี.ค.-“มนพร” ลุยนครพนม ผนึกกำลังคมนาคม – หน่วยงานในพื้นที่ส่งเสริมเส้นทางบิน พัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก – “ไทยไลอ้อนแอร์” พร้อมบิน “มิถุนายนนี้” มอบ ทย.เร่งดำเนินมาตรการส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินภายในประเทศ


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (17 มี.ค.) ได้เดินทางมาประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมยกระดับเมืองน่าเที่ยว ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ของกระทรวงคมนาคมด้วย

นางมนพร กล่าวว่า หลังจากที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีสายการบินเปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานนครพนมเพิ่มนั้น สายการบินไทยไลอ้อนแอร์มีความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางบินในเส้นทางดอนเมือง – นครพนม – ดอนเมือง สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีพื้นที่โดดเด่นด้าน 3 ธรรม คือ ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และมีกิจกรรมงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ งานประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม งานประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จังหวัดสกลนคร และงานประเพณีแข่งเรือ จังหวัดมุกดาหาร


ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมมากถึง 2,204,220 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 2 ล้านคน และพบว่ามีผู้เดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งเดินทางเชื่อมต่อไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยใช้บริการท่าอากาศยานนครพนมถึง 343,057 คน จากจำนวนเที่ยวบิน 2,116 เที่ยวบินต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางมนพร กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินมายังจังหวัดนครพนมนั้น ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด พิจารณาเส้นทางและจัดรถโดยสารสาธารณะ สำหรับบริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ได้รับความสะดวก มีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการ และสอดคล้องกับตารางการบิน รวมถึงจัดรถสาธารณะอำนวยความสะดวกการเดินทางเชื่อมต่อเพื่อข้ามไปยัง สปป. ลาว ทั้งทางสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 และด่านท่าเรือ จังหวัดนครพนม นอกจากนี้ ยังได้ให้ท่าอากาศยานนครพนมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด จัดกิจกรรมเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความรับรู้และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย

นางมนพร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ – นครพนม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้มีความสมบูรณ์ เมื่อโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าในปี 2571 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปี และรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า ลดต้นทุนการขนส่ง ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่


นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทย.ได้เสนอมาตรการส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินภายในประเทศไปยังท่าอากาศยานในสังกัด ทย. โดยการลดค่าบริการการขึ้น-ลงของอากาศยาน และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 50% เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับสายการบินใหม่ที่ไม่เคยให้บริการเที่ยวบินแบบประจำที่มีกำหนดการเดินทาง/ออกจากมายังท่าอากาศยานนั้น หรือเคยทำการบินแต่ได้หยุดบินไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และลดค่าบริการการขึ้น – ลงของอากาศยานและค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 50% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับเส้นทางบินใหม่ที่ไม่เคยมีบริการเที่ยวบินแบบประจำมีกำหนด ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานนั้น หรือเคยทำการบินแต่ได้หยุดบินไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อพัฒนาเส้นทางบินภายในประเทศต่อไป

ปัจจุบันอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนครพนมสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คนต่อชั่วโมง หรือ 1.7 ล้านคนต่อปี มีทางวิ่งขนาด 2,500 x 45 เมตร ลานจอดอากาศยานสามารถรองรับอากาศยานแบบ B737/A320 ได้ 3 ลำในเวลาเดียวกัน ลานจอดรถยนต์รองรับ 140 คัน ซึ่งคาดการณ์ว่า หลังจากที่สายการบินไทยไลอ้อนแอร์เปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานนครพนมจะทำให้ท่าอากาศยานนครพนมมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 18.48% และมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 32.99% จากปี 2567. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ