ทำเนียบฯ 1 ส.ค.-โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม บังคับใช้ทั้งข้าราชการและเครือญาติ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเป็นร่างที่มีการเสนอมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่ในครั้งนั้นไม่ผ่านมติเห็นชอบจากรัฐสภา จึงกลายเป็นที่มาของชื่อกฎหมาย 7 ชั่วโคตร แต่ในวันนี้ (1 ส.ค.) คณะรัฐมนตรีชุดนี้ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งมีที่มาจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนับเป็นกฎหมายที่ต้องการให้ข้าราชการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ร่างกฎหมายเดิมจะใช้บังคับเฉพาะข้าราชการการเมือง แต่ปัจจุบันจะใช้กับข้าราชการรัฐวิสาหกิจพร้อมคู่สมรสทุกคนทุกตำแหน่งและทุกระดับ ครอบคลุมไปถึงญาติ 4 ลำดับ ประกอบด้วย ผู้สืบสันดานหรือบุตรหรือบุตรบุญธรรม บุพการี คู่สมรสของบุตร พี่น้องของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะต่างบิดาหรือต่างมารดาก็ตาม โดยหลักการสำคัญของกฎหมาย คือ ห้ามกระทำการที่ขัดประโยชน์ส่วนบุคคลหรือส่วนรวม ห้ามรับของขวัญหรือประโยชน์ที่คำนวณเป็นเงินได้ แต่มีข้อยกเว้นว่าการให้ตามประเพณีนิยมที่สามารถทำได้ ซึ่งต้องไปออกกฎระเบียบกติกาย่อยอีกครั้ง นอกจากนี้ยังห้ามเปิดเผยให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลลับทางราชการเพื่อใช้ในทางทุจริตหรือเป็นประโยชน์ต่อตัวเองด้วย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า หลังจากพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ จะไม่มีซุปเปอร์บอร์ด แต่จะมีคณะกรรมการย่อย 11 คณะ ที่ต้องแต่งตั้งให้เสร็จภายใน 15 วันนับแต่พระราชบัญญัติว่าด้วยแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศมีผลบังคับใช้.-สำนักข่าวไทย