กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – จากพระราชปรารภและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้จุดประกายแห่งการพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรของไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
การจัดทำแผนแม่บทพัฒนาสมุนไพรไทยฉบับแรกของไทย พร้อมกับการเปิดตัวเมืองสมุนไพร Herbal City ถือเป็นการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงตระหนักถึงการส่งเสริม การใช้ และการพัฒนาสมุนไพรให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปมาตั้งแต่อดีต เพราะความได้เปรียบของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในโซนร้อนชื้น มีพันธุ์พืชมากกว่า 20,000 ชนิด สามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรกว่า 1,800 ชนิด ด้วยแผนแม่บทนี้ ภายในระยะเวลา 5 ปี จะทำให้ไทยเป็นประเทศผู้นำการส่งออกทั้งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของอาเซียน เชื่อมโยงกับการผลักดันให้มีการใช้สมุนไพรในประเทศ เพื่อรักษาโรคและสร้างเสริมสุขภาพให้มากขึ้น
ขณะที่เมืองสมุนไพร 4 จังหวัดนำร่อง คือ เชียงราย สกลนคร ปราจีนบุรี และสุราษฎร์ธานี ก็จะปักหมุดขับเคลื่อนศักยภาพอย่างจริงจัง ทั้งปลูก พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรตัวท็อป เช่น ขมิ้นชัน มะแขว่น มะรุม และอีกหลายชนิดของภูมิภาคนั้นๆ ต่อยอดอุตสาหกรรมส่งออก ที่เด่นชัดมานาน เช่น ปราจีนบุรี สัญลักษณ์อภัยภูเบศร คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบัน เปรียบเป็นห้องรับแขกในตลาดอาเซียนมาระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับการนำสมุนไพรมารักษาโรคมะเร็ง พระองค์ทรงมีพระราชปรารภกับ นพ.นพรัตน์ บุณยเลิศ ว่า “ฉันไม่สบายใจมาก ที่เห็นคนไทยของฉันเป็นโรคมะเร็งตายกัน” เป็นที่มาของงานศึกษาวิจัยสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง ตามแนวพระราชดำรินับร้อยโครงการ เช่นเดียวกับที่ จ.สกลนคร วัดคำประมง ยึดแนวรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพร เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยแนวทางการพึ่งพาตัวเอง ใช้สมุนไพรรักษามะเร็งระยะสุดท้ายอย่างได้ผล
จะเห็นได้ว่าในรัชสมัยของพระองค์ มีภารกิจในด้านอนุรักษ์คุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยให้ผู้เกี่ยวข้องได้สานงานต่อมากมาย เช่น การออกกฎหมายคุ้มครองส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย 19 ฉบับ คุ้มครองตำรับยาแผนไทย 162,545 รายการ นำการนวดไทยมรดกไทยสู่มรดกโลก จากพระราชปรารภเมื่อครั้งเสด็จฯ วัดโพธิ์ ก่อให้เกิดการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยอย่างเป็นระบบ
ทรงส่งเสริมการศึกษาพัฒนาอนุรักษ์สมุนไพรและพรรณไม้หายาก พระราชทานคำแนะนำแก่คณะวิจัยของสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม พระราชทานพระราชานุเคราะห์ในการศึกษาพัฒนาและอนุรักษ์ ก่อเกิดสวนพฤกษศาสตร์ สวนสมุนไพร ตามโครงการป่าชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งทั้งการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรได้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์แก่ประเทศชาติมหาศาล สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและชาวโลกในทุกมิติ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้ำค่าที่ปวงชนชาวไทยพร้อมน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้. – สำนักข่าวไทย
