รัฐสภา 24 ม.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ เรียก “ป.ป.ง.-ดีเอสไอ-อัจฉริยะ” แจง “หมูเถื่อน-ตีนไก่สวมสิทธิ์” เผยยังมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังผู้ถูกดำเนินคดี เตรียมขยายผลสอบเส้นทางการเงิน พร้อมมีมติตั้งคณะทำงานเกาะติด ลั่นจะติดตามเอาความจริงถึงที่สุด
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯว่า ที่ประชุมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกรณีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน และตีนไก่สวมสิทธิ์เข้ามาในประเทศไทย และส่งออกไปยังประเทศจีน โดยสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและประเทศ โดยมีพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง) พล.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร่วมชี้แจง ซึ่งกมธ.ฯได้รับทราบผลการดำเนินงานครอบคลุม 3 กรณี 1.กรณีกลุ่มเนื้อหมูถื่อนตกค้างที่ท่าเรือ จำนวน161ตู้ 10 คดี 2.กรณีกลุ่มเนื้อหมูเถื่อนที่มีการผ่านแดนเข้ามาจำนวน 2,388 ตู้ 1คดี และ3.กรณีขบวนการนำเข้าตีนไก่และสวมสิทธิ์ออกไปยังประเทศจีน 1 คดี
“ปัจจุบันทางดีเอสไอ และป.ป.ง. ร่วมกันดำเนินการสืบสวนสอบสวน และส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบเอาผิดแล้ว 3 คดี จาก 12 คดี ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนที่เหลืออีก9คดี อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลไปถึงขบวนการรวมถึงผู้อยู่เบื้องหลัง จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังผู้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว5คน โดยทางป.ป.ง.จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังด้วย แต่จากข้อมูลพอจะทราบได้ว่าเป็นใคร ยืนยันว่าทางกมธ.ฯจะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด ไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งใด จะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือไม่ เราจะติดตามเอาความจริงออกมาให้ได้” นายปิยรัฐ กล่าว
นายปิยรัฐ กล่าวว่า จากการพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนและประเทศ ทางกมธ.ฯ มีมติตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะว่าใครมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังในการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน และสวมสิทธิ์ตีนไก่ ทางกมธ.ฯจะติดตามเรื่องนี้ต่อไปอย่างน้อย2ประเด็น 1.กรณีการดำเนินงานของป.ป.ง. กมธ.ฯมีความเห็นว่ายังไม่ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบกฎหมาย และ2.ความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวน .-316.-สำนักข่าวไทย