กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.-รองหัวหน้าปชป.ชี้ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทำให้พรรคทางเลือกเกิดขึ้นได้ยาก หวัง กรธ.ฟังข้อทวงติงต่อ เพื่อแก้ไขให้ได้รับการยอมรับ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า การท้วงติงเนื้อหาบางส่วนของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเป็นการท้วงติงเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองและทำเพื่อตัวเอง ว่า การวิพากษ์วิจารณ์ท้วงติงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่ทำเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ หลายเรื่องที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ท้วงติง หากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พิจารณาให้ถ่องแท้จะเห็นว่าเป็นการท้วงติงด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้ติเรือทั้งโกลน
“เราอยากเห็นกฎหมายพรรคการเมืองมีส่วนทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ถูกครอบงำหรือชี้นำ โดยบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองและนายทุนพรรค รวมทั้งการเปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่กรธควรคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยและความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติด้วย” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า อยากให้กรธ.คำนึงแนวทางการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 4 ประการ ได้แก่ คำนึงถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติที่สามารถทำให้เป็นจริงได้ ระมัดระวังการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาแทนปัญหาเก่า ระมัดระวังเรื่องการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และส่งเสริมการสร้างพรรคมวลชนเชิงอุดมการณ์ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า หากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญคำนึงถึงแนวทาง 4 ประการนี้ จะช่วยทำให้ร่างกฎหมายมีความสมบูรณ์มากขึ้น
นายองอาจ กล่าวถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองที่มีข้อจำกัดมากขึ้น และมีเงื่อนไขทางการเงินเพิ่มมากขึ้นว่า อาจมีส่วนทำให้คนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่อยากตั้งพรรคทางเลือก เช่น พรรคกรีน พรรคสิ่งแวดล้อม พรรคคุ้มครองผู้บริโภค มีโอกาสตั้งพรรคยากขึ้น เพราะต้องใช้คนเริ่มต้นตั้งพรรค 500 คน ต้องหาสมาชิกให้ได้ 5,000 คนภายใน 1 ปี และต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คนภายใน 4ปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีปัญหา หากกฎหมายออกมาจริง พรรคประชาธิปัตย์น่าจะปฏิบัติได้ แต่พรรคทางเลือกคงเกิดยาก จึงอยากฝากให้กรธ.คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง และหวังว่ากรธ.จะรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อปรับแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองให้ได้รับการยอมรับเมื่อบังคับใช้ต่อไป” นายองอาจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย