แม่ร้องลูกชายถูกเพื่อนเอาดินสอทิ่มตาหวิดบอด

ตรัง 6 ม.ค. – แม่แจ้งความร้องทุกข์ ลูกชาย ป.2 โดนเพื่อนร่วมชั้นเรียน ใช้ดินสอทิ่มตาขวาหวิดบอด เชื่อปมฟ้องครูเพื่อนพกบุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่ทางโรงเรียน ยังไม่ได้ออกมาชี้แจง


นางนิชนันท์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ซึ่งเป็นคุณแม่ของ ด.ช. อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนใช้ดินสอทิ่มตาขวาจนทะลุ ได้เดินทางไป สภ.เมืองตรัง พร้อมนายความ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ปกครองและเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลูกชายคนก่อเหตุดังกล่าวให้ถึงที่สุด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ขณะที่ลูกชายกำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในชั้นเรียน โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองตรัง เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2566 หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ให้โอกาสกับผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียนคนก่อเหตุมาขอโทษและรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รอจนถึงวันที่ 6 ม.ค. ก็ยังไม่มีหน่วยงานออกมาชี้แจง หรือแสดงความรับผิดชอบ จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อขอความเป็นธรรมกับตำรวจ ให้ติดตามผู้ปกครองและผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.2 มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และชดใช้ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น หลังลูกชายมีโอกาสตาบอดสนิทสูง


นางนิชนันท์ กล่าวทั้งน้ำตาอาบแก้มว่า ขณะที่ตนเฝ้าดูแลลูกชายช่วงพักฟื้นที่โรงพยาบาลพยายามแจ้งประสานให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองฝ่ายคู่กรณีทราบมาตลอด ว่าลูกชายต้องผ่าตัดกระจกตาทะลุและถ้ามีอาการแทรกซ้อน แผลติดเชื้อมีโอกาสเสี่ยงตาบอด แต่ทางโรงเรียนตอบกลับมาว่ามีเงินประกันอุบัติเหตุเบื้องต้นแค่ 8,000 บาท โดยในส่วนของผู้ปกครองคู่กรณีให้ไปเจรจาทำข้อตกลงกันเอง ตนรู้สึกเสมือนโดนทอดทิ้ง ไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นมีผลต่ออนาคตของเด็กผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ที่อาจจะกลายเป็นเด็กถือบัตรคนพิการตั้งแต่อายุ 7 ขวบไปจนตลอดชีวิต

ต่อมาจึงไปปรึกษาทนายความและทำหนังสือแจ้งไปยัง ผจก.โรงเรียนฯ และ ผอ.โรงเรียน รวม 3 ฉบับ แต่จนถึงตอนนี้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองฝ่ายคู่กรณียังเพิกเฉย ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือช่วยเหลือเยียวยาใดๆ จึงตัดสินใจนำเอกสารและหลักฐาน เพื่อเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และทางโรงเรียน เพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรม เพราะเหตุการณ์นี้มันไม่ใช่อุบัติเหตุ หรือเหตุสุดวิสัยตามที่ครูกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ด้านทนายความ กล่าวว่า เมื่อสอบถามเชิงลึกพบว่าลูกของเขาถูกทำร้ายมาตลอดในห้องเรียน และเหตุการณ์ล่าสุดทราบว่าเด็กที่ทำร้ายพกบุหรี่ไฟฟ้ามาโรงเรียน ลูกชายซึ่งเป็นเพื่อนไปพบเห็น และได้ไปบอกคุณครู ซึ่งคิดว่ามูลเหตุที่มีการแทงลูกตาดำครั้งนี้ มาจากการบอกคุณครู จึงน่าจะจงใจแทงเข้าที่ดวงตาที่ไปพบเห็น และเป็นความจงใจไม่ใช่อุบัติเหตุ ในวันเกิดเหตุไม่มีคุณครูส่งเด็กที่บาดเจ็บ หรือเรียกรถโรงพยาบาลมารับ ปล่อยให้เด็กเดินมาคนเดียว จึงอยากให้ทางโรงเรียนแสดงจุดยืนในความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก