ปส.รวบ 4 เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ

4 ม.ค. – ปส.รวบ 4 เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย ยึดยาบ้ากว่า 16 ล้านเม็ด เฮโรอีน 27 กิโลกรัม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลงานภายใต้แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญได้ 4 คดี จับกุมผู้ต้องหา 6 คน ยึดยาบ้ากว่า 16 ล้านเม็ด เฮโรอีน 27 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สิน ได้กว่า 105 ล้านบาท

โดยมีคดีสำคัญ เช่น จับกุม 2 ผู้ต้องหาคือนายบุญช่วย และนายสมเกียรติ หลังมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดนครพนมไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่สระบุรี มีการใช้รถยนต์กระบะสำหรับนำทางเพื่อเฝ้าระหว่างเจ้าหน้าที่และมีรถบรรทุกขนาดกลางสีขาวขับติดตามมา กระทั่ง เจ้าหน้าที่เรียกตรวจค้นรถต้องสงสัยที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ตรวจค้นพบยาบ้ากว่า 8.6 ล้านเม็ด เฮโรอีน 27 กิโลกรัม


อีกคดี เจ้าหน้าที่สกัดจับรถเก๋งต้องสงสัย 2 คัน บริเวณด่านตรวจยานพาหนะพายุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ตรวจค้นในห้องโดยสาร พบยาบ้า 6.5 ล้านเม็ด สอบสวน 2 ผู้ต้องหา รับสารภาพว่ารับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนหมู่บ้านห้วยส้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มาส่งในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ รวมถึง จ.ปทุมธานี และสมุทรปราการ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า 1 ในผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเมื่อปี 2562 ก่อนพ้นโทษออกมา ก็ยังมารับจ้างขนยาเสพติดอีก

นอกจากนี้ ยังขยายผลตรวจค้นและยึดทรัพย์ รวม 16 เป้าหมาย ของเครือข่ายขนถ่ายยาเสพติดลงเรือข้ามชาติ และเชื่อมโยง เกี่ยวพันกับนายชาญชัย วิรุณพันธ์ หรือกัปตันตุ้ย อดีตกัปตันเรือที่รับลำเลียงยาเสพติดทางเรือ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม 2 คน คือนายอานนท์ และนายสุริยา และยึดทรัพย์สินอื่น ๆ และโฉนดที่ดิน รวม 34 รายการ รวมมูลค่า 105 ล้านบาท ส่วนตัว กัปตันตุ้ย ตัวการสำคัญ ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ซึ่งตำรวจมีการออกหมายจับไว้แล้ว อยู่ระหว่างการสืบสวนประเทศปลายทางที่หลบหนี และจากการสืบสวนข้อมูลยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการขนถ่ายยาเสพติด ทางเรือส่งไปประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ฯลฯ พร้อมวางกำลังจับตาเครือข่ายนี้ เพราะคาดว่าอาจมีการใช้ผู้สั่งการรายใหม่ขึ้นมาอีก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 19 คดี ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ 23 ราย ยึดของกลาง เป็นยาบ้ารวมกว่า 15,000,000 เม็ด เฮโรอีน เคตามีน และยาไอซ์ชนิดละกว่า 1,000 กิโลกรัม โคเคน 11 กิโลกรัม ทั้งยังสามารถขยายผลยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบได้กว่า 414 ล้านบาท.-413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก