กรุงเทพฯ 29 ธ.ค. – สรรพากร กำชับแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ รายได้เกิน 1,000 ล้านบาท นำส่งรายได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สรรพากร
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า หลังจากอธิบดีกรมสรรพากร ออกประกาศ (วันที่ 27 ธ.ค.66) กำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้ให้บริการผ่านสื่อกลาง เชื่อมระหว่างผู้ประกอบการร้านค้ากับผู้บริโภค (ไม่รวมถึงกิจการภายใต้การกำกับดูแลของ BOT หรือ ก.ล.ต.) ที่จดทะเบียนในไทย และมีรายได้ในรอบบัญชีเกิน 1,000 ล้านบาท ให้ยื่นบัญชีพิเศษ ที่แสดงข้อมูลรายรับผ่านออนไลน์ ตามที่กรมสรรพากรพัฒนาระบบขึ้นเพื่อรองรับไว้โดยเฉพาะ
เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจสินค้าออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่แพลตฟอร์มในประเทศในการพิสูจน์การมีเงินได้ กรมสรรพากรจึงได้พัฒนาระบบงานเพื่อรับข้อมูลที่มีปริมาณมากในรูปแบบอิเล็ทรอนิกส์ ดังนั้น ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok, Facebook, Youtube, Shopee ต้องแสดงรายได้ผ่านระบบของกรมสรรพากร เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยให้นำส่งภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นรอบบัญชี ซึ่งเป็นกำหนดเวลาเช่นเดียวกับการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี (ภ.ง.ด.50) เช่น หากมีรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.67 ถึง 31 ธ.ค.67 ก็จะมีกำหนดที่จะต้องนำส่งข้อมูลประมาณเดือน พ.ค.68 เป็นต้น
ในการนำส่งข้อมูล รองรับทั้งแบบผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มส่งเอง และใช้ service provider เพื่ออำนวยความสะดวก และลดการใช้กระดาษได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นการวางรากฐานของ Digital Tax Ecosystem เพื่อการจัดเก็บภาษีที่ทั่วถึงและเป็นธรรม และยกระดับการให้บริการของกรมสรรพากร เน้นการบริการยึดถือผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง Taxpayer Centric อย่างแท้จริง.-515-สำนักข่าวไทย