ยุทธศาสตร์ชาติต้องทันโลกที่เปลี่ยนแปลง

ทำเนียบรัฐบาล 27 ธ.ค.-นายกฯ ประชุมยุทธศาสตร์ชาติ สั่งสศช.ทบทวนปรับปรุงให้ทันกับบริบทการพัฒนาโลกอย่างสม่ำเสมอ-เห็นชอบ (ร่าง) โครงการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 309 โครงการ


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 ร่วมกับนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมเพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นเครื่องมือการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ cloud computing พลังงานสะอาด ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานคุณภาพ รวมทั้งภูมิรัฐศาสตร์ จึงขอให้คณะกรรมการร่วมกันคิดรูปแบบวิธีการดำเนินงานและการขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติที่เหมาะสม โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ควรทบทวนปรับปรุงยุทธศาสตร์ชาติให้ทันกับบริบทการพัฒนาโลกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศที่มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อให้ประชากรรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังการพัฒนาประเทศที่สำคัญได้เป็นส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศต่อไป


“การวางยุทธศาสตร์ถือเป็นการวางกรอบโครงยุทธศาสตร์ที่ให้รัฐบาลและคนทั้งประเทศได้รับรู้และทำงานไปในทิศทางประเทศไทยในอนาคต ที่เราอยากให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเพื่อให้รู้ว่าจะไปสู่ภาพนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าการมียุทธศาสตร์ มีกลยุทธ์ในการทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่ผมไม่เชื่อกับการวางแผนแล้วล็อกตัวเองไว้ยาวนานเกินไป ไม่มีใครที่วางแผนไว้ยาวนานถึง 20 ปี เพราะแม้กระทั่ง 5 ปียังทำได้ยาก โลกนี้เปลี่ยนไปแล้วและจะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งอาจจะเมื่อ 6 เดือนที่แล้วหรือ 10 เดือนที่แล้วเราไม่เคยได้ยิน Chat GPT เรื่อง Artificial Intelligence เรื่องของเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะมากำหนดทิศทางโลก เรื่องพลังงานสะอาดเป็นเรื่องที่เวลาเดินทางไปเจรจากับต่างประเทศจะเป็นเรื่องแรกที่หยิบยกมาพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่โลกเราเปลี่ยนไปมาก โดยเรื่องเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของ war of talent ที่ทุกบริษัท ทุกรัฐบาล ทุกประเทศทั่วโลกดึงดูดคนที่มีความสามารถไปทำงาน และเป็นเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ ประเทศไทยต้องคอยปรับยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้แผนยุทธศาสตร์มีความคล่องตัว ทบทวนและมีความยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก โดยขอฝากให้ที่ประชุมช่วยกันพิจารณารูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม จะทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์เกิดประโยชน์ได้จริง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกในวันนี้และไม่ปิดกั้นอนาคตของประเทศชาติ เพื่อให้การพัฒนาของลูกหลานพวกเราในอีก 20 ปีข้างหน้าไม่ถูกผูกมัดด้วยความคิดของคนรุ่นเรา ให้พวกเขาได้มีโอกาสปรับเข้ากับคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้น ให้มีโอกาสที่จะเลือกทิศทางในการวางยุทธศาสตร์และก้าวไปพร้อม ๆ กับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมว่า คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ 4 เรื่อง และมีมติรับทราบ 3 เรื่อง สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประเมินความคุ้มค่าการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ สำนักงาน ป.ย.ป. โดยให้สำนักงาน ป.ย.ป. ยังคงคงปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐบาลมอบหมายต่อไปเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ. ร่วมกันพิจารณาทบทวนและปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ย.ป. ให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งให้ประเมินความคุ้มค่าของสำนักงาน ป.ย.ป. ต่อไป


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว 2. เห็นชอบ (ร่าง) โครงการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 309 โครงการ โดยมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สำนักงานฯ) นำเสนอผลการพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการโครงการสำคัญตามที่สำนักงานฯ เสนอ โดยทุกหน่วยงานควรเร่งสร้างบุคลากรผู้ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ในการจัดทำโครงการฯ (ครู ก.) เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดกระบวนการ หลักการ และขั้นตอนการทำโครงการสำคัญฯ ที่สามารถนำไปสู่การจัดทำโครงการแบบคานงัดที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง โดยให้ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจัดทำโครงการภายใต้เป้าหมายแผนแม่บทย่อยที่ยังไม่มีโครงการสำคัญมารองรับ โดยให้ความสำคัญกับเป้าหมายฯ ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล

“3. เห็นชอบการปรับเปลี่ยนหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมระหว่างเนื้อหาของแผนแม่บทฯ กับภารกิจหน้าที่หน่วยงานมากขึ้น โดยมอบหมายสำนักงานฯ นำผลการพิจารณา เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป โดยประธานในที่ประชุมได้กำชับให้หน่วยงานเจ้าภาพทุกระดับต้องเร่งประสานและบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานร่วมขับเคลื่อน เพื่อจัดทำโครงการการ/การเนินงานให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติได้แบบพุ่งเป้าต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายชัย กล่าวว่า 4. เห็นชอบการจัดทำคำสั่งกลไกการดำเนินการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาคนทุกช่วงวัยและการแก้ไขปัญหาความยากจนสามารถเป็นไปอย่างบูรณาการ มีประสิทธิภาพ ต่อเนื่อง เป็นประโยชน์สูงสุด และมีความยั่งยืนในการพัฒนา รวมทั้งมอบหมายทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งจัดส่งข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักให้สำนักงานฯ เพื่อที่สำนักงานฯ จะได้นำไปประมวลผลหากลุ่มคนเป้าหมายประจำปี 2567 ต่อไป

“คณะกรรมการมีมติรับทราบ 3 เรื่อง ดังนี้ 1. รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติของ สศช. ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติร่วมกับทุกหน่วยงานของรัฐในห้วง 5 ปีแรก (พ.ศ. 2561 – 2565) ของยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในห้วงที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ตามกรอบหลักการบริหารงานคุณภาพ (PDCA) ที่มีการมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถนำไปสู่การพุ่งเป้าการดำเนินงานได้ โดยทุกหน่วยงานของรัฐต้องมุ่งเน้นการทำงานบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อสามารถยกระดับและปิดช่องว่างการพัฒนาต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายชัย กล่าวว่า 2. รับทราบแนวทางการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ โดยสำนักงานฯ ในฐานะสำนักงานเลขานุการ จะดำเนินการสรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และเสนอรายชื่อต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเห็นชอบการแต่งตั้งรายชื่อดังกล่าวต่อไป รวมทั้งแนวทางการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยเป็นการแต่งตั้งขึ้นใหม่ 1 คณะ ประกอบด้วยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่ครอบคลุมยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน จำนวน ไม่เกิน 15 คน และให้สำนักงานฯ ในฐานะสำนักงานเลขานุการ ดำเนินการสรรหารายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติ และเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติตามขั้นตอนต่อไป

“3. รับทราบผลการประเมินผลสัมฤทธิ์พระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของของพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบกฎหมายดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายเมื่อครบ 5 ปี โดยให้พระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 ยังมีผลบังคับใช้ต่อไป และสำนักงานฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบกฎหมายดำเนินการยกเลิก พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560 ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด และให้หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างบูรณาการ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว