กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. – รมว.ยุติธรรม ร่วมตำรวจ ปส. แถลง “ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1)” จับเครือข่ายขนยาข้ามทะเล อายัดทรัพย์กว่า 140 ล้านบาท
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับพลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการจับกุมและขยายผลเครือข่ายยาเสพติดที่มีการลำเลียงออกไปสู่ประเทศที่สาม ผ่านทางเรือออกสู่น่านน้ำสากล “ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” ยึดทรัพย์กว่า 140 ล้านบาท
พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ขณะลำเลียงยาเสพติดเพื่อเตรียมนำลงเรือส่งออกไปยังต่างประเทศ บริเวณท่าเรือของบริษัทแห่งหนึ่งในอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตรวจพบของกลางเป็นไอซ์ แพ็กอัดแน่นอยู่ในถุงผลไม้อบแห้งบรรจุกล่อง จำนวนทั้งสิ้น 52 กล่อง และเคตามีน บรรจุแพ็กอัดในถุงชาใส่กล่อง จำนวน 48 กล่อง รวมน้ำหนักของยาเสพติดทั้งหมด 2,200 กิโลกรัม และเจ้าหน้าที่ยังจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในจุดเกิดเหตุทั้งบนเรือและท่าเรือได้รวม 14 คน ซึ่งขณะจับกลุ่มมีผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ 1 ราย โดยการกระโดดลงทะเล
ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขยายผลและรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดและอีก 3 ราย คือ นายชานนท์ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมขับรถยนต์ลำเลียง, นายศิริทรัพย์ ทำหน้าที่ทีมการ์ดบนเรือ และนายชาญชัย หรือกัปตันตุ้ย เป็นผู้สั่งการในเครือข่าย
สำหรับตัวกัปตันตุ้ย เป็นอดีตกัปตันเรือที่มีชื่อเสียงในวงการเดินเรือระดับประเทศ ต่อมาผันตัวมาเปิดบริษัทเดินเรือ และเป็นผู้บริหารจัดการการส่งยาเสพติดทางเรือ และครั้งนี้เช่าเรือเพื่อไปส่งยาเสพติดในน่านน้ำสากล ซึ่งพบว่าเคยมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้วถึง 7 ครั้ง ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าได้รับการสั่งการจากผู้สั่งการใหญ่ที่เรียกกันว่า “พ่อเลี้ยง” มาอีกทอดหนึ่ง
ต่อมาในช่วงวันที่ 9 ถึง 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันเปิดปฏิบัติการยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon1) ภายใต้แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย เพื่อปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายกว่า 10 จุด ติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย ซึ่งผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมลูกน้องคนสนิทของกัปตันตุ้ยได้ พร้อมตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของกำนันตุ้ยได้อีกหลายรายการ เช่น เงินสด ทองแท่ง และทองรูปพรรณ พระเครื่อง รวมถึงรถยนต์ และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 140 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินของผู้ร่วมทำความผิดอีกจำนวนหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างติดตาม คาดว่าจะมีทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเครือข่ายนี้ถือว่าเป็นลักษณะองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน และมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ตำรวจ ปส. อยู่ระหว่างสืบสวน เพื่อขยายผลไปหาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังระบุอีกว่า นโยบายการดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดต่อจากนี้มีการปรับปรุงเพื่อให้มีการทำงานรวดเร็วมากขึ้น เช่น การทำลายยาเสพติดของกลางในคดีจากเดิมที่ต้องรอให้กระบวนการทางศาลเสร็จสิ้นลงก่อน แต่ปัจจุบันเมื่อส่งตรวจพิสูจน์และนำเข้าสู่สำนวนเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะเผาทำลายทันที รวมถึงเมื่อมีการคัดแยกสารของยาเสพติด จะมีการจัดทำข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เส้นทางของยาเสพติด เพื่อดูเป้าหมายและปลายทาง เช่น ยาเสพติดที่มีการปั๊มคำว่า Y1 พบว่าจะจัดส่งลงไปขายที่ภาคใต้ ส่วนยาเสพติดที่มีการปั๊ม 999 พบว่าจะนำมาขายอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งทำให้รู้และวางแผนสกัดกั้นยาเสพติดได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเรียกข้าราชการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคาดการณ์ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแลข้าราชการทั่วประเทศ มากำชับเกี่ยวกับเรื่องนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามชุมชนทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย