22 ธ.ค.- ศาลแห่งสหภาพยุโรป ตัดสินให้ฟีฟ่าและยูฟ่า ไม่มีสิทธิขวางนักเตะและสโมสร ที่จะเข้าร่วมดวลแข้งในศึกยูโรเปียนซูเปอร์ลีก ขณะที่หลายสโมสรปฏิเสธที่จะเข้าร่วมดวลแข้ง
ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปมีคำสั่งตัดสินว่า การที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ที่ออกกฎห้ามสโมสรฟุตบอลในยุโรปเข้าร่วมดวลแข้งในศึก “ยูโรเปียนซูเปอร์ลีก” หรือ ESL โดยขู่จะแบนนักเตะและสโมสรที่เข้าร่วม ESL ไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปนั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยคำวินิจฉัยของศาลระบุว่า เมื่อมีการแข่งขันใหม่เข้ามาเป็นคู่แข่งในตลาด ทั้งฟีฟ่าและยูฟ่าต้องใช้อำนาจอย่างโปร่งใส ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก หรือลำเอียง แต่การใช้อำนาจหน้าที่ของยูฟ่าเป็นการใช้อำนาจขององค์กรโดยมิชอบ การออกกฎเพื่อรับรอง ควบคุม หรือสั่งห้ามใดๆ ในกรณีนี้จึงเป็นการสร้างข้อจำกัดที่ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับหลักการให้อิสระในการแข่งขัน แต่อย่างไรก็ตาม ศาลระบุในตอนท้ายว่า คำวินิจฉัยนี้ไม่ได้บอกว่าการแข่งขันยูโรเปียนซูเปอร์ลีก จะต้องได้รับการรับรอง
สำหรับศึก ESL กลายเป็นประเด็นฮือฮาของวงการลูกหนังโลกเมื่อเดือนเมษายนปี 2021 หลังจากมี 12 ทีมชั้นนำของยุโรป นำโดย 6 ทีมใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส กับ 3 ทีมใหญ่จากลาลีกา สเปน เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และแอตฯ มาดริด และ 3 ทีมใหญ่จากกัลโช เซเรียอา อิตาลี เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส จับมือลงนามตั้ง ESL ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากแฟนบอล และภาครัฐ จนหลายทีมถอนตัว ซึ่งหลังจากมีคำตัดสินของศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปออกมา ทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขัน ยูโรเปียนซูเปอร์ลีก มีความหวังในการก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาอีกครั้ง นำโดย 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ของยูโรป เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลนา 2 ทีมจากสเปน และยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี แต่ก็มีสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปหลายทีมที่ออกมาประกาศไม่เห็นด้วย และไม่ขอเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, บาเยิร์น มิวนิค และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ได้ออกแถลงการณ์จากสโมสร และผู้บริหารของทีม ที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่เข้ารวมดวลแข้งในรายการนี้ .-สำนักข่าวไทย