ทำเนียบรัฐบาล 19 ธ.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยที่ประชุม ครม.เห็นชอบ 5 มาตรการแก้ PM 2.5 ใช้ KPI เป็นตัววัดผลงานผู้ว่าฯ 17 จังหวัดภาคเหนือ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในปี2567 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ออกมาตรการพร้อมกลไกการบริหารจัดการและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ไปดำเนินการ รวมทั้งเสนอให้รับทราบแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลภาวะทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
“ปัญหาหมอกควันฝุ่นพิษ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีจนถึงต้นปี จะมีมรสุมความกดอากาศทางตอนเหนือ ส่งผลให้อากาศไม่กระจายตัว อีกทั้งในปีนี้เข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดหมอกควันคือ ไฟป่า การเผาพื้นที่ทางการเกษตร หมอกควันข้ามพรมแดน และควันจากการจราจร กระทรวงทรัพยากรฯ ได้เสนอให้จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และเสนอกลไกแก้ไขระดับชาติและในพื้นที่ โดยเน้นมาตรการ 5 ข้อ คือ 1.กำหนดพื้นที่เป้าหมายในภาคเหนือ 17 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พร้อมกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่เป็นป่าอนุรักษ์ 10 แห่ง และป่าสงวนแห่งชาติ 10 แห่งรวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรที่เคยมีประวัติการเผาซ้ำซาก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายชัย กล่าวว่า 2. สร้างกลไกการทำงานให้ทางเอกชนเข้ามาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเพื่อลดข้อจำกัดด้านงบประมาณ 3.จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อสั่งการลงสู่ระดับพื้นที่ 4.การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 5. ยกระดับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนให้เข้มข้นจากระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่การเจรจาระดับทวิภาคี โดยกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดให้เป็น KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมตั้งเป้าลดการเผา 50% ในเขตป่าอนุรักษ์และ เขตป่าสงวนแห่งชาติ ถัดมาเป็นพื้นที่เป้าหมายรองที่ไม่ได้อยู่ใน 17 จังหวัด ให้ตั้งเป้าว่าต้องลดการเผาลง 20% ส่วนพื้นที่เกษตรอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในภาคเหนือ 17 จังหวัดให้ลดการเผาลง 10%
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการกำหนดKPI ต้องดูว่า PM2.5 ลดลงเท่าไหร่โดยมีการกำหนดในแต่ละพื้นที่ดังนี้ ภาคเหนือค่าเฉลี่ยต้องลดลง 40% กรุงเทพมหานครลดลง 20% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง 10% และภาคกลางลดลง 20% ส่วนจำนวนวันที่มีหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน ภาคเหนือต้องลดลง 30% กรุงเทพมหานคร 5% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5% ภาคกลาง 10% ทั้งนี้ ภาคราชการจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์คอยติดตาม และมีชุดปฏิบัติการอำเภอลงไปในพื้นที่สำรวจเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผา หากจะเผาต้องมีการขอ โดยจะจัดคิวหากมีการขออนุญาตเพื่อทำการเผา
“ขณะที่การส่งเสริมภาคเอกชนที่จัดนำเอาวัสดุการเกษตรต่างๆ เช่น หญ้า ฟาง ใบไม้ฯ จะนำไปทำเชื้อเพลิง วัตถุดิบสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือ จะนำไปทำเป็นอาหารสัตว์รัฐจะมีมาตรการส่งเสริม เซนต์ได้สิทธิพิเศษทางภาษี และการอุดหนุนดอกเบี้ย เป็นต้น ที่สำคัญมากต่อไปนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ผลงานจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดปัญหาหมอกควัน PM2.5 ซึ่งจะเป็น KPI ที่สำคัญเราสามารถชั่ง ตวง วัดได้เพรามีเครื่องวัดมาตรฐานแน่นอน ผลงานจะผ่านต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้” นายชัย กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย