กทม. 17 ธ.ค. – พ่อสาวปริญญาเอก ร้องขอความเป็นธรรม หลังสามี ผจก.แมนชั่นเมาบุกพังห้องพัก ลูกสาวตกใจปีนหนีออกหน้าต่าง ทำให้พลัดตกจากชั้น 6 เสียชีวิต แม่บ้านหอพักแจงหนุ่มทุบห้องเป็นเพียงคนเช่า ด้านตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา กับผู้ก่อเหตุ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวถึงกรณี น.ส.อาภาพร หรือเฟิร์น อายุ 27 ปี พลัดตกตึกชั้น 6 จากห้องพักแมนชั่นย่านลาดปลาเค้า เพราะตกใจกลัวสามีของผู้จัดการแมนชัน (ผู้ก่อเหตุ) บุกเคาะห้องเสียงดังในช่วงเวลา 04.00 น. ว่า เหตุเกิดวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งอีกไม่กี่เดือนจะจบและรับปริญญา โดยน้องพักอาศัยอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้ไม่นาน กระทั่งวันเกิดเหตุสามีของผู้จัดการแมนชั่นขึ้นไปเคาะประตูห้องดังมาก และใช้ถ้อยคำส่งเสียงดังโวยวาย เพราะเข้าใจว่าน้องไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ทับที่จอดของตัวเอง เนื่องจากรับฟังมาจากแม่บ้านผู้ดูแลแมนชั่น ว่ามอเตอร์ไซค์ที่มาจอดอาจเป็นของน้อง ช่วงเกิดเหตุ น้องพักอยู่ชั้น 6 แต่เพื่อนที่อยู่ชั้น 3 ก็ได้ยินเสียงดังเช่นกัน ทำให้น้องรีบแชตข้อความบอกเพื่อนที่อยู่ชั้น 3 ให้ช่วยเหลือ แต่เพื่อนยังไม่กล้าขึ้นไปช่วย เพราะเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจมีอาวุธ จึงรีบลงไปที่ชั้น 1 เพื่อเรียก รปภ. แต่ระหว่างนั้นน้องกลัวผู้ก่อเหตุจะพังห้องเข้ามา อยากหนีออกไป จึงปีนระเบียงหลังห้องจะข้ามไปยังห้องข้าง ๆ แต่ท้ายสุดพลัดตกตึกจากห้องพักชั้น 6 กระแทกผ่านหลังคาโรงจอดรถลงมายังพื้นชั้นล่าง ซึ่งเพื่อนและ รปภ. ที่กำลังจะขึ้นไปหาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ด้านนายสมชาย อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนกลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็ก เสียใจมาก มีลูกสาวที่เรียนเก่งและเป็นนักเรียนทุน แต่กลับต้องเสียชีวิตจากการกระทำของคนที่ขาดสติมึนเมา เพราะความเข้าใจผิดว่าลูกสาวไปจอดทับที่มอเตอร์ไซค์ มองว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนดื่มสุรา แต่กลับไม่มีการตรวจสารเสพติด เพราะมองว่าแค่เรื่องมูลเหตุการจอดทับที่มอเตอร์ไซค์ ทำไมจึงต้องคลุ้มคลั่งขนาดนั้น ท้ายที่สุดมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวก็ไม่ใช่ของลูกสาว จึงอยากให้ผู้ก่อเหตุมีจิตสำนึกบ้าง และขอให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ครอบคลุมทั้งหมด
ช่วงบ่ายทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาพ่อผู้ตาย เดินทางมาที่แมนชั่นดังกล่าว เพื่อติดต่อสอบถามเรื่องราวที่เกิด แม่บ้านประจำตึกบอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้เช่า ไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคารตามที่เป็นข่าว เจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร้องไห้และไปจุดธูปขอขมาในเช้าวันถัดมา หลังเกิดเรื่อง เจ้าของอาคารสั่งย้ายออกทันที ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หลบหนี แต่ถือเป็นบุคคลอันตราย อย่างไรก็ตาม ปกติเขาไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรง แต่คงมึนเมามาก จนเกิดเรื่องขึ้น ตอนที่เขาโทรศัพท์หา ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ตนเพียงบอกรูปพรรณสันฐานของรถ ไม่ได้บอกเลขทะเบียน ทั้งนี้ ฝ่ายอาคารก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพ ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ามีครบถ้วน และได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว
ขณะที่ตำรวจ สน.โชคชัย สอบปากคำผู้ก่อเหตุแล้ว อ้างเมาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่กรณีเก่าที่มาจอดรถขวางจึงไปถามแม่บ้านว่าเป็นรถใคร แต่แม่บ้านบอกผิดห้อง เลยไปโผล่ที่หน้าห้องน้องผู้ตาย จึงโวยวายอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้เจตนาทำให้น้องตกตึกจนเสียชีวิต ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา บุกรุกในเวลากลางคืน, ขู่เข็ญใช้กำลัง และส่งสียงดังทำให้คนรำคาญ. – สำนักข่าวไทย