นนทบุรี 15 ธ.ค.- กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียน “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขงหนองคาย” สินค้า GI รายการใหม่ประจำจังหวัดหนองคาย เนื้อแน่น นุ่ม เป็นที่นิยมของผู้บริโภค สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนอย่างยั่งยืน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญามีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานรากบนพื้นฐานแห่งอัตลักษณ์และภูมิปัญญาไทย โดยการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับสินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า พร้อมส่งเสริม การควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขงหนองคาย” สินค้า GI ลำดับที่ 3 ของจังหวัดหนองคาย ต่อจากกล้วยตากสังคมและสับปะรดศรีเชียงใหม่
ทั้งนี้ ปลานิลกระชังแม่น้ำโขงหนองคาย” คือปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา มีลักษณะส่วนหัวเล็ก ริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน มีลายพาดตามขวาง เมื่อปรุงสุกเนื้อมีสีขาว แน่นเป็นลิ่ม และนุ่ม จำหน่ายในรูปแบบปลานิลสดและปลานิลแดดเดียว ผลิตและแปรรูปตามภูมิปัญญาของชุมชน ครอบคลุมเขตพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดหนองคายที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน ได้แก่ อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือ มีคุ้งน้ำกว้าง พื้นท้องน้ำเป็นทราย มีโขดหินทำให้การไหลผ่านของน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงจังหวัดหนองคายเป็นการไหลแบบเอื่อยๆ ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้เหมาะสมกับการเลี้ยงปลานิล ทำให้ปลานิลมีสุขภาพดี จากการว่ายน้ำตลอดเวลา ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำโขงซึ่งมีแร่ธาตุในดิน และเป็นน้ำที่มี ความสะอาด ส่งผลให้ “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขงหนองคาย” ที่เลี้ยงในกระชังจึงไม่มีกลิ่นเหม็นคาว และไม่มีกลิ่นโคลน เนื้อแน่น นุ่ม เนื่องจากมีไขมันแทรก เป็นที่นิยมของผู้บริโภคในจังหวัดหนองคายรวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ถือเป็นสินค้าด้านการเกษตรที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายและเกษตรกรในชุมชนกว่า 540 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ไทยอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนช่องทางการตลาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือโทรสายด่วน 1368 .-514-สำนักข่าวไทย