เมืองทองธานี 8 ธ.ค.- “อนุทิน” มอบนโยบายแก้หนี้นอกระบบ ย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือหลายครอบครัว ป้องกันปัญหาทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมมอบนโยบายในการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ในการมอบนโยบายแก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้เข้าร่วมรับมอบนโยบายกว่า 3,000 คน
นายอนุทิน กล่าวว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจถึงความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับ ซึ่งเกิดจากการเรียกดอกเบี้ยที่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการทวงถามหนี้ที่เป็นการละเมิดซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิต และความสงบเรียบร้อยของสังคม ภาครัฐจึงต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะระหว่างกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ บริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ และผู้ปฏิบัติงานต้องให้ความสำคัญกับการกลั่นกรองและเชื่อมโยงข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว และเด็ดขาดที่สุด
“หากเจ้าหนี้และลูกหนี้ยินดีเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยภาครัฐจะต้องเป็นคนกลางที่ดีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประชาชนต้องสามารถตรวจสอบความถูกต้อง และติดตามความคืบหน้าของเรื่องที่ได้ขอรับความช่วยเหลือไว้ได้ตลอดเวลา หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นภายหลังซึ่งเป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เช่น การข่มขู่หรือไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาไกล่เกลี่ย เจ้าหน้าที่จะต้องร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานได้ไปกำหนดห้วงเวลาในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับไทม์ไลน์ ที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเป้าหมายไว้ รวมทั้งต้องมีการกำหนดค่าตัวชี้วัด (KPI) ที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอยืนยันว่าตนเองนั้น จะใช้อำนาจที่มีในการสนับสนุนภาระกิจแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่
“วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดี ที่หลายงานต้องทำงานร่วมกัน พร้อมย้ำถึงนโยบายการแก้ไขหนี้นอกระบบต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน นอกที่เกิดจากเงินกู้นอกระบบ มีดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม เกินกฎหมายกำหนดไว้จำนวนมาก มีการทวงหนี้ คุกคามและข่มขู่ ละเมิดต่อทรัพย์สินและความสงบเรียบร้อยของสังคม” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า หวังว่าทุกคนจะได้รับความภาคภูมิใจในการปฏิบัติภารกิจนี้ เพราะในบรรดาความทุกข์ทั้งหลายของพี่น้องประชาชน ทุกข์ที่เกิดจาก หนี้สินนั้น เป็นทุกข์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ของการฆ่าตัวตาย หากเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและแก้ปัญหาได้อย่างประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นคุณต่อคุณภาพชีวิตของหลายครอบครัว ป้องกันปัญหาต่อเนื่อง ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศต่อไป.-317.-สำนักข่าวไทย