สาธารณรัฐประชาชนจีน 7 ธ.ค.-“ปานปรีย์” ระบุไทยเตรียมส่งคณะทำงานคุยจีน เรื่องวีซ่าฟรี ช่วงสิ้นปี ขณะจีนเผยยอดสั่งซื้อทุเรียนไทย 8 หมื่นลูก ใน 1 นาที หวังไทยเร่งเดินหน้ารถไฟไทย-จีน
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 8 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน วานนี้ (6 ธ.ค.) ว่า บรรยากาศการหารือนั้นดีมาก เพราะไทยกับจีน มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และโอกาสนี้ยังเชิญนายหวัง อี้ เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่มีความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน อาทิ โครงการแถบและเส้นทาง หรือ Belt and Road Initiative (BRI) ซึ่งจีนคาดหวังว่า โครงการรถไฟเชื่อมไทย-สปป ลาว-จีน จะสำเร็จโดยเร็ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับปากว่า เมื่อกลับไทยแล้วจะเรียนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเร่งรัดให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายหวัง อี้ กล่าวด้วยว่า จีนสั่งซื้อสินค้าเกษตรของไทยเพิ่มขึ้น เช่น ทุเรียนไทย ที่จีนสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ 80,000 ลูก ภายในระยะเวลาเพียง 1 นาที ฉะนั้นหากโครงการนี้เสร็จสิ้น เชื่อว่าไทยจะสามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้เพิ่มมากขึ้น สร้างเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้แข็งแรง และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป
นายปานปรีย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้หารือเรื่องวีซ่าฟรี หรือการที่คนไทยถือพาสปอร์ตธรรมดาสามารถเข้าจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งขณะนี้คนจีนเดินทางเข้าไทยก็ไม่ต้องขอวีซ่าอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงชั่วคราว ซึ่งจะเจรจาขยายเวลาออกไป โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะส่งคณะทำงานไปประชุมร่วมกับฝ่ายจีน คาดว่าสิ้นเดือนนี้ หรือช่วงปีใหม่ เพื่อดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว โดยนายหวัง อี้ ก็สนับสนุน และพร้อมดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
นายปานปรีย์ ย้ำว่า หากได้วีซ่าฟรีแล้วเข้าไปอยู่เกิน หรือตั้งใจไปทำมาหากิน หรืออะไรก็แล้วแต่ โดยไม่ถูกกฎหมาย ก็จะเสียชื่อประเทศ และเป็นโอกาสที่ทำให้ประเทศนั้นยกเลิกวีซ่าได้ ก็จะกระทบกับพี่น้องประชาชนที่อยากไปเที่ยว
ส่วนการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ กรณีเปิดวีซ่าฟรีนั้น คณะทำงานที่จะไปหารือกับจีน จะหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งหากทำได้มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า ในการหารือกับนายหวัง อี้ ไทยแสดงความกังวลเรื่องเฟคนิวส์ ที่อาจทำให้คนจีนเข้าใจผิดว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัยสำหรับคนจีนที่มาเที่ยวไทย ซึ่งทางจีนรับทราบเรื่องนี้ว่าเป็นเฟคนิวส์.-312.-สำนักข่าวไทย