fbpx

ไทยและตุรกีเริ่มเจรจา FTA รอบแรกแล้ววันนี้

ตุรกี 19 ก.ค. – นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของตุรกี  นาย Nihat Zeybekçi ได้ประกาศการเปิดเจรจา FTA ระหว่างไทยกับตุรกีวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ณ นครอังการา สาธารณรัฐตุรกี 


(ส่งภาพ สัมภาษณ์ ใน Ftp/eco/supawan)+ภาพเข้าหารือ FTA 2ประเทศ + ซีพีเข้าหารือ ของช่างภาพ ปัญญา-ทางเป็ด )

รมว.พาณิชย์ เผยทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าให้ขยายตัว 2 เท่าภายใน 3 ปี จากกว่า 1,200  ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น กว่า 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ และครอบคลุมภาษีสินค้าไทยเกือบ 1 หมื่นรายการ และตกลงแผนการเจรจา FTA  แต่ละรอบอย่างชัดเจน ให้การเจรจาแล้วเสร็จในปลายปี 2561 ซึ่งเป็นปีฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับตุรกี  โดยตกลงให้มีการประชุมทุก 3 เดือน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2560


ทั้งนี้ความตกลงจะครอบคลุมด้านการค้าสินค้า รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการศุลกากร มาตรการเยียวยาทางการค้า มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรการทางเทคนิค ต่อการค้า เป็นต้น 

รมว.พาณิชย์กล่าวว่า สินค้าเป้าหมายที่ไทยต้องการให้ลดภาษี ในรายการสินค้าเกษตร ผลไม้ไทย อาทิ กล้วยหอมทอง มะม่วง สับปะรด เพราะปัจจุบัน ตุรกีนำเข้าสินค้าเมืองร้อนมาจาก อเมริกาใต้เป็นหลัก และเก็บภาษีสินค้าเกษตรสูงถึง 100-150 % ดังนั้นหากเปิด FTA ไทยจะมีโอกาสเปิดตลาดสินค้าเกษตรได้อีกมาก เพราะนอกเหนือจากการบริโภคในประเทศ ตุรกียังเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก

“การจัดทำ FTA ไทย-ตุรกี จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยทั้งสองประเทศตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยตุรกีมีที่ตั้งที่สามารถเป็นแหล่งการลงทุนและกระจายสินค้าสำหรับประเทศไทยไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียกับยุโรป ในทางกลับกัน ประเทศไทยก็ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศในกลุ่มอาเซียน และสามารถเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าและแหล่งลงทุนแห่งใหม่ให้แก่ตุรกีได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไทยและตุรกียังคงมีลู่ทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างมาก” นางอภิรดีกล่าว


ทั้งนี้ในปี 2559 ตุรกีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 35 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1,370.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 9.46 และมูลค่าการค้าสองฝ่ายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.33 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 772.34 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 1071.50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 9.46 และนำเข้ามูลค่า 299.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 28.24 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 609.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.81 และมูลค่าการค้าสองฝ่ายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.34 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 419.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกมูลค่า 514.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 13.18 และนำเข้ามูลค่า 95.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีก่อนหน้า

สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกและนำเข้าสินค้าส่งออกของไทย เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ เป็นต้น

ขณะที่สินค้านำเข้าจากตุรกี มีทั้งเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป กระจก แก้ว และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องประดับอัญมณี ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า

ก่อนหน้านี้ บ.ซีพีเอฟ ซึ่งได้เข้ามาลงทุนในตุรกี 30 ปี ได้เข้าพบ รมว.พาณิชย์ โดยนายสันติภาพ ศรีสุวรรณภิพ รองประธาน อาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟเป็นเอกชนไทยเพียงรายเดียวที่มาลงทุนในตุรกีขณะนี้ โดยมาลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์ ไก่เนื้อ และไก่ไข่เมื่อ 30 ปีก่อน เพราะเห็นว่าตุรกีเป็นประเทศที่มีศักยภาพทั้งการค้าและการลงทุน ตลาดมีประชากรมากถึง 79 ล้านคน และ ผู้บริโภคมีมาตรฐานการครองชีพใกล้เคียงไปทางประชากรในยุโรป โดยปัจจุบันอาหารสัตว์ ของซีพี เป็นเบอร์ 1 ในตุรกีส่วนไก่เนื้อเป็นเบอร์ 5-6

ทั้งนี้หากผู้ประกอบการไทยต้องการมาลงทุนในตุรกี จะต้องมีเทคโนโลยีและพร้อมแข่งขัน โดยผู้บริโภคตุรกียอมรับคุณภาพของสินค้าไทยโดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อนของไทย  แต่ระบบภาษียังมีการเก็บภาษีนำเข้า ในอัตราสูงโดยเฉพาะสินค้าเกษตร มีอัตราตั้งแต่ 50-กว่า100%

ทั้งนี้ต้องการให้รัฐบาลเจรจาให้อัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบลดลงมาเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้