24 พ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายเครือข่ายลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวผิดกฎหมายกว่า 23 ล้านลิตร ค่าปรับสูงกว่า 2,700 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ พล.ร.ท.ดนัย สุวรรณหงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ยุทธการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศยก.ศรชล.) และนายพยุง บุญสมสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต แถลงผลการดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
คดีนี้ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ค้าน้ำมันเขียวให้กับเรือประมงนอกเขตต่อเนื่องรายใหญ่ จำนวน 3 เครือข่ายมากว่า 2 ปี ได้กลุ่มผู้ต้องหาเกือบ 20 คน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียว ผ่านเรือแท๊งก์หรือเรือประมงดัดแปลง เพื่อนำน้ำมันเขียวไปจำหน่ายบนฝั่ง และเติมให้กับรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ที่ราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลในตลาดประมาณ 10 บาทต่อลิตร โดยตลอด 2 ปี มีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวรวมกว่า 23,231,700 ลิตร สร้างความเสียหายต่อรัฐในการจัดเก็บภาษี และถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบกลุ่มชาวประมงที่ ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่แบ่งการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท และกลุ่มของคนขับเรือ รวมเกือบ 20 รายแจ้ง ในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ฐานร่วมกันขนถ่ายสินค้าในเขตต่อเนื่องโดยไม่ได้รับอนุญาต และเคลื่อนย้ายสินค้าออกไปจากยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคารวมอากร คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ และยังมีบางส่วนที่ให้การปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องดำเนินคดี
ด้าน พล.ร.ท.ดนัย กล่าวว่า จากการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมประมง กรมเจ้าท่า กองบังคับการตำรวจน้ำ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะสัญญาณดาวเทียมที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ช่วงเวลาที่เครือข่ายผู้ต้องหาลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวนั้นอยู่นอกพื้นที่ที่กำหนดจริง และสามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล
สำหรับน้ำมันเขียวเป็นน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลได้ยกเว้นภาษีสรรพสามิตให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยให้เรือประมงไทยลดต้นทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่เรือที่เติมน้ำมันเขียวได้ต้องเป็นเรือประมงไทยที่ลงทะเบียนถูกต้อง และต้องเติมน้ำมันในพื้นที่ที่กำหนดคือ 12-24 ไมล์ทะเลเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย