ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฏิบัติการสกัดภัยออนไลน์ข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 12 มี.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฏิบัติการสกัดภัยออนไลน์ข้ามชาติ จับกุมแก๊งหลอกลงทุนหุ้นผ่านแอปฯ ปลอม เสียหายกว่า 800 ล้านบาท


ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธานในการแถลงข่าวแถลงผลปฏิบัติการ “CIB breaks up online scam syndicate สกัดภัยอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ” ทลายแก๊งชาวจีน-มาเลย์ หลอกเหยื่อลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1.Mr.LI อายุ 26 ปี สัญชาติมาเลเซีย 2.Mr.Cheong อายุ 42 ปี สัญชาติ มาเลเซีย และ น.ส.ณัฐนิชฯ อายุ 30 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพ และในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมของกลางประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ 33 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ 65 เครื่อง, สมุดบัญชี 84 เล่ม, บัตรกดเงินสด 13 ใบ, ซิมการ์ด 25 อัน, กระเป๋าแบรนด์เนม 15 ใบ, นาฬิกาแบรนด์เนม 7 เรือน, วัตถุคล้ายทอง 15 ชิ้น และรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ 1 คัน รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 8 ล้านบาท

ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ กับ บก.ปอศ.ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนผ่านเพจ Facebook หลอกให้ลงทุนหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศโดยแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการหุ้นสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนชักชวนเข้าร่วมกลุ่ม Line VIP แนะนำการลงทุนในหุ้นต่างประเทศและอ้างมีข้อมูลลับที่ใช้ในการลงทุน โดยให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นปลอม คือ Nicshare ซึ่งช่วงแรกสามารถทำกำไรได้จริงและถอนเงินได้บางส่วน เพื่อตั้งใจให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่เมื่อลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยกลุ่มคนร้ายอ้างว่าถ้าต้องการจะถอนเงินต้องวางเงินหลักประกันการลงทุนเพิ่มและจะต้องเสียภาษี 20% ของกำไร จึงจะสามารถถอนเงินได้ เมื่อผู้เสียหายทำตามที่คนร้ายบอกก็ยังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และมีการอ้างว่าผู้เสียหายจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าประกัน และค่าภาษี เพิ่มซ้ำ ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบยังพบว่า แอปพลิเคชั่นดังกล่าวไม่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 50 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท


คดีนี้ตำรวจสอบสวนจนพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหลายรายและมีพื้นที่ที่ใช้ในการกระทำผิดหลายพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ และมีนายทุนเป็นชาวต่างชาติสัญชาติมาเลเซียเชื้อสายจีนจำนวนหลายราย เบื้องต้นพบยอดเงินหมุนเวียนในกลุ่มคนร้ายกว่า 5000 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอศาลอาญาฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 50 กว่าราย

นำไปสู่ปฎิบัติการ “CIB breaks up online scam syndicate สกัดภัยอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ” เข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรู 5 แห่งพื้นที่กรุงเทพและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ Mr.LI อายุ 26 ปี สัญชาติมาเลเซีย และน.ส.ณัฐนิชฯ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแฟนกัน และทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบุคคลเพื่อจดจัดตั้งนิติบุคคลและเปิดบัญชีม้าตามคำสั่งของนายทุนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ สัญชาติมาเลเซียเชื้อสายจีน นอกจากนี้ยังจับกุม Mr.Cheong อายุ 42 ปี สัญชาติ มาเลเซีย ได้อีก 1 ราย ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยเป็นนายทุนและเป็นผู้มาติดต่อรับบัญชีจากผู้ต้องหาทั้งสองรายข้างต้น

จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหาที่ 1 คือ Mr.LI พบว่ามีประวัติเคยต้องโทษ ถูกดำเนินคดีที่ประเทศมาเลเซีย ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนหรือบัญชีม้า รับโอนเงินจากการกระทำความผิดมาแล้ว 5 ครั้งก่อนจะมาพักอาศัยในไทยได้ 3 ปี โดยไม่พบประวัติการทำงานในไทยแต่อย่างใด


นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าจากคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพบางข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากนายทุนต่างชาติให้หาบุคคลเพื่อจดจัดตั้งนิติบุคคลและเปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับแอปพลิเคชั่นที่ใช้หลอกลวง เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและหลบเลี่ยงการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของภาครัฐ ซึ่งเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วนายทุนต่างชาติจะส่งคนมารับบัญชีที่ประเทศไทย โดยได้รับค่าจ้างในการดำเนินการเริ่มต้นครั้งละ 100,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ปีกว่า ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมได้

โดยคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากระทำผิด ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอันเป็นเท็จ, เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเอง หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องฯ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยเพิ่มเติมโดยเชื่อว่า ความเสียหายอาจสูงถึง 1 พันล้านบาท เพราะหลังจากนี้เมื่อข่าวออกไปอาจมีผู้เสียหายแสดงตัวเพิ่ม พร้อมเตือนประชาชน ที่สนใจการลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องกับ ก.ล.ต.หรือไม่ และเตือนผู้ที่จะเปิดบัญชีม้า ทั้งผู้จ้าง และถูกจ้างเป็นม้า แม้จะมีค่าตอบแทนสูงแลก แต่ไม่คุ้มเมื่อถูกจับดำเนินคดี เพราะทีการไปพัวพันกับเครือข่ายข้ามชาติ. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]