ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมสารพัดเว็บ เงินหมุนเวียนกว่า 7,000 ล้าน

17 พ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลางทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมสารพัดเว็บ รวมทั้งเว็บตำรวจสอบสวนสวนกลาง ดีเอสไอ และตำรวจไซเบอร์ ทำเหยื่อถูกหลอกซ้ำซ้อน พบเงินหมุนเวียนกว่า 7,000 ล้านบาท


ตำรวจ ปอท. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย คือ นายฉาง อายุ 35 ปี สัญชาติจีน, น.ส.ฤดี อายุ 29 ปี, นายเอกณัฏฐ์ อายุ 43 ปี, นายเอกชัย อายุ 40 ปี และนายวันดี อายุ 26 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินจำนวนมาก เช่น บัญชีธนาคาร 46 เล่ม, รถยนต์หรู 7 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน, โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ เงินสดกว่า 8.6 ล้านบาท และของมีค่าอื่นๆ อีก 79 รายการ รวมมูลค่ากว่า 83 ล้านบาท ในความผิดหลายข้อหา เช่น ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงิน เป็นต้น

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบพบเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ปลอม โดยมีการเลียนแบบเว็บไซต์ แอบอ้างชื่อและใช้ตราสัญลักษณ์ของตำรวจสอบสวนกลาง รวมทั้งหน่วยงานใต้สังกัด อีกทั้งยังพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพใช้วิธียิงแอดโฆษณาผ่าน Google เมื่อประชาชนค้นหาคำว่า “แจ้งความออนไลน์” เว็บไซต์ปลอมที่คนร้ายสร้างขึ้นจะแสดงขึ้นมาเป็นลำดับแรกๆ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ เพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ เพื่อให้ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่จะแจ้งความ กลุ่มคนร้ายจะสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ และหลอกลวงอ้างว่าสามารถนำเงินคืนมาให้ได้ ล่อลวงวิธีต่างๆ จนเหยื่อลงเชื่อโอนเงินไปให้ ทั้งนี้ พบว่าภายในเวลา 15 วัน มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กลุ่มคนร้ายมากกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท


จากการสืบสวนพบว่าเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการใช้ IP-Address ที่เป็นของผู้ให้บริการของประเทศกัมพูชา และมีการเช่าบริการเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ จึงตรวจค้นบริษัทที่ให้บริการเช่าเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบฐานข้อมูลเว็บไซต์ที่ใช้และเคยใช้ในการฉ้อโกงออนไลน์จำนวนมาก มีการปลอมเว็บไซต์ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ ที่ไม่มีอยู่จริง รวมถึงเว็บไซต์หลอกลงทุนต่างๆ เบื้องต้นรวมกว่า 133 เว็บ เช่น ตำรวจสอบสวนสวนกลาง, DSI, ตำรวจไซเบอร์, เว็บหลอกสั่งซื้อสินค้า, เว็บเงินกู้, เว็บลงทุนคริปโทฯ, เว็บสายการบินปลอม, เว็บหลอกสมัครงาน ซึ่งปัจจุบันพบเปิดใช้งานอยู่ 98 เว็บไซต์ เจ้าหน้าที่ปิดไปแล้ว 10 เว็บไซต์

จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนร้ายจะใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย แล้วถ่ายเทเงินไปยังบัญชีม้าแถวต่างๆ จากนั้นจะนำเงินไปซื้อเหรียญสกุลเงินดิจิทัล แล้วถ่ายเทไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลต่างๆ ก่อนจะส่งต่อไปยังกระเป๋าที่เป็นของกลุ่มคนร้ายที่เป็นระดับสั่งการหรือนายทุนต่อไป โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 จนถึงปัจจุบัน ในกลุ่มของคนร้ายมียอดเงินหมุนเวียนมากกว่า 7,000 ล้านบาท

ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนร้ายในขบวนการรวม 12 ราย ประกอบด้วยคนไทย 8 ราย คนกัมพูชา 1 ราย และคนจีน 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายหง เว่ย เหลียง ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในระดับนายทุนและเป็นเจ้าของเว็บไซต์ปลอมดังกล่าว


นอกจากนี้ยังมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหากลุ่มบัญชีม้าอีก 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา และเมื่อวันที่ 14-15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันตรวจค้น 9 เป้าหมาย ในหลายจังหวัด และได้ผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมยึดของกลางและทรัพย์สินจำนวนมากดังกล่าวข้างต้น โดยบางรายให้การรับสารภาพ ขณะที่บางรายให้การภาคเสธ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ รวมทั้งนายหง เว่ย เหลียง นายทุนและเจ้าของเว็บไซต์ปลอม ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ