fbpx

จับตารถบรรทุกขนดินเกินครึ่งกระบะส่อน้ำหนักเกิน

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – กทม. ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกปัญหาจากการก่อสร้างบนผิวจราจร ขอทุกฝ่ายร่วมจับตารถบรรทุกขนดินเกินครึ่งกระบะ ส่อน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด


(9 พ.ย. 66) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาจากการก่อสร้างบนผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดยมี ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบนผิวจราจร ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้กรุงเทพมหานครได้เชิญหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบนผิวจราจรประชุมร่วมกัน เพื่อหารือถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเหตุแรกเป็นของสำนักการระบายน้ำซึ่งเกิดฝาบ่อหัก ส่วนเหตุที่สองเป็นของการไฟฟ้านครหลวงนั้น ฝาบ่อแข็งแรงดี แต่โครงสร้างของฝาบ่อทรุดไป ซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำหนักรถบรรทุกที่มากเกินไป


“ในที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องของมาตรการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุก โดยขอความร่วมมือทุกหน่วยงานใช้วิธีการสังเกตในเบื้องต้น ดังนี้ รถเปล่า 1 คัน จะมีน้ำหนักประมาณ 10-11 ตัน ตามกฎหมายรถบรรทุกจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 25 ตัน ดังนั้น รถจะสามารถบรรทุกได้อีกประมาณ 14-15 ตัน ในส่วนของดิน โดยทั่วไปแล้ว จำนวนดิน 1 คิวบิกเมตร (คิว) หรือ 1 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จะหนักประมาณ 1.5 ตัน รถบรรทุกจะต้องบรรทุกดินไม่เกิน 10 ลบ.ม. จึงจะไม่เกิน 15 ตัน ซึ่งจากขนาดของกระบะรถบรรทุกแล้ว ดินที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของกระบะจะไม่เกินน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานในการกำกับดูแลผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ก่อสร้างที่ตนเองรับผิดชอบและขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

พร้อมกล่าวต่อไปว่า เรื่องที่สองที่ได้หารือคือเรื่องของโครงสร้างชั่วคราว ซึ่งโดยปกติได้มีการออกแบบให้มีการรองรับน้ำหนักรถบรรทุกปกติที่บวก Safety Factor และ Impact Factor แล้ว แต่ก็ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของรถบรรทุกที่บรรทุกเกินเยอะ ๆ ได้ จึงให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูว่าเราจะสามารถยกระดับโครงสร้างชั่วคราวให้มีความแข็งแรงคงทนมากขึ้นได้อย่างไร โดยไปตรวจสอบและปรับปรุงให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ การบรรทุกน้ำหนักเกินอาจไม่ได้ทำให้เกิดการถล่มในทันที แต่ทำให้อายุการใช้งานถนนหรือสะพานสั้นลง ฉะนั้น ต้องควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกเพื่อยืดอายุการใช้งานของถนนหรือสะพานให้สามารถใช้งานได้ตามอายุการใช้งานที่ได้มีการออกแบบไว้


เรื่องที่สามคือการคืนสภาพผิวจราจรให้เรียบขึ้น โดยทางการไฟฟ้านครหลวงได้มีการปรับฝาบ่อให้เรียบกับพื้นถนนซึ่งได้ดำเนินการแล้วหลายพื้นที่ และเรื่องสุดท้าย จากกรณีที่เคยเกิดเหตุดินทรุดตัวในบางจุด จะสังเกตได้ว่าส่วนที่ยุบจะเป็นบริเวณหน้าบ่อที่มีการดันท่อ จึงได้มีการหารือถึงวิธีการป้องกัน คือ ปรับกระบวนการก่อสร้างให้รัดกุมขึ้น แต่อีกปัญหาหนึ่งคือการดำเนินการดันท่อมักจะไม่จบภายในคืนเดียว เนื่องจากระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างสั้น อยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อคืน เพราะตามปกติจะมีการก่อสร้างในเวลา 22.00 – 05.00 น. เท่านั้น เมื่อเข้าพื้นที่ไปเตรียมสถานที่ จะได้เริ่มงานจริง ๆ ในเวลาประมาณเที่ยงคืน และเมื่อถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ก็จะต้องเร่งคืนพื้นที่แล้ว จึงมีการคุยกันว่า กทม.จะเพิ่มเวลาการก่อสร้างบ่อบนถนนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยทางการไฟฟ้านครหลวงและผู้รับจ้างจะต้องไปคุยกับทางตำรวจด้วย เนื่องจากเป็นผู้ดูแลในเรื่องของการจราจร

นอกจากนี้ กทม. จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสั่งห้ามรถบรรทุกวิ่งผ่านจุดที่มีฝาบ่อของสำนักการระบายน้ำ อาทิ บริเวณถนนศรีอยุธยา สน.พญาไท ราชปรารภ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุถนนทรุดอีก และเพื่อปรับฝาบ่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงจะห้ามรถบรรทุกขึ้นสะพานข้ามแยกที่มีอายุการใช้งานมานาน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุและเป็นการยืดอายุการใช้งานของสะพานด้วย

นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า ในวันนี้ทาง MEA ได้เรียกประชุมหน่วยงานรับจ้างรับทราบข้อสั่งการ โดยได้สั่งการให้เร่งปรับปรุงฝาบ่อให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อลดจำนวนฝาบ่อและลดรอยต่อระหว่างฝาบ่อ พร้อมให้เพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และจะต้องมีความเรียบเสมอกับผิวการจราจร เพื่อความปลอยภัยของประชาชน ทั้งนี้ MEA ได้ดำเนินการปรับปรุงฝาบ่อมาตั้งแต่ปี 2565 และจากนี้จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในต้นปีหน้าหรือช่วงไตรมาสแรกของปี 2567

สำหรับปัจจุบันมีโครงการบ่อพักสายไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ รวม 617 บ่อพัก ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาไม่เคยประสบปัญหา เนื่องจากมีรายละเอียดทางวิศวกรรมที่ถูกต้องและมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ บ่อที่เกิดเหตุเป็นบ่อแบบ Type-O ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และสามารถรับน้ำหนักได้เกิน 28 ตัน โดยจากการเปิดหน้างานในระยะที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดปัญหาอะไร ยืนยันว่าทางผู้รับจ้างได้ออกแบบให้รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า 28 ตัน อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจของประชาชน MEA จะพิจารณาในการเสริมโครงสร้างความแข็งแรงเพิ่มเติมในทุกโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงโครงการในอนาคตด้วย เช่น การปรับรูปแบบคานใช้ระบบคานคู่ หรือการเพิ่มขนาดของเหล็ก โดยการออกแบบเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติมนี้จะพิจารณาตามความเหมาะสมของบ่อแต่ละ Type ซึ่งโครงการของ MEA มีบ่อทั้งหมด 4 Type ได้แก่ Type-A Type-L Type-T และ Type-O

ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้รับจ้างของ MEA ได้มีการเข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง ไว้แล้ว และในคืนนี้ MEA จะทำการเปิดฝาบ่อดังกล่าวและเก็บกู้ซากคานที่หักขึ้นมาวิเคราะห์ตรวจสอบลักษณะของเหล็ก เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว

“ขอขอบคุณ กทม. ที่เข้าใจการก่อสร้างของ MEA เชื่อว่าถ้ามีโอกาสได้ทำงานในช่วงวันหยุด จะทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วขึ้น และประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบด้วยว่าต่อไปเราจะขอทำงานในช่วงวันหยุดด้วย” รองผู้ว่าการ MEA กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ