“ชัชชาติ” คาด 2 สาเหตุ ฝาบ่อทรุด รถบรรทุกร่วงกลางเมือง

กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” เผยถึงเหตุฝาบ่อทรุดกลางเมือง รถบรรทุกร่วงเกือบมิดคัน ปากซอยสุขุมวิท 64/1 คาดเกิดจาก 2 สาเหตุ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน หรือรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ขณะที่ทั่ว กทม.มีบ่อลักษณะนี้ 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ (8 พ.ย.66) บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ใกล้ BTS ปุณณวิถี แผ่นซีเมนต์ปิดบ่อเกิดทรุดตัว จนเป็นหลุมขนาดใหญ่กลางถนน และมีรถบรรทุกดินคันหนึ่งตกลงไปเกือบมิดคัน โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำงานช่วงกลางคืน และกลางวันจะปิดฝาท่อให้รถวิ่งตามปกติ ใต้ฝามีคานรับน้ำหนักไว้ เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และการจราจรบนถนนสุขุมวิท ขาเข้า ติดขัดอย่างหนัก ท้ายแถวยาวไปถึงบางนา

หลังเกิดเหตุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ทันที โดยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักเกิน ทำให้เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คานเหล็กด้านล่างแผ่นคอนกรีต ซึ่งมีเพียง 1 คาน พาดไว้ระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ เกิดการหัก หลังจากนี้ต้องสอบถามไปที่การไฟฟ้าฯ ว่า สาเหตุที่คานหักเกิดจากอะไร และจะต้องตรวจสอบว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกเกินมาเท่าไหร่ รวมถึงสั่งตรวจสอบไซต์งานของรถบรรทุกว่า ให้บรรทุกน้ำหนักมาเท่าไหร่


ปัญหาตอนนี้คือ กำลังวางแผนจะนำเครนยกรถบรรทุกออก แต่ต้องระมัดระวังตัวฝา หรือแผ่นเหล็ก 4 แผ่น ที่อาจตกไปด้านล่าง หากยกรถบรรทุกออก ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นฝาแผ่นเหล็กไม่เสียหายมากนัก ยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก จะทำใหม่แค่คานเหล็กตรงกลางที่เสียหาย เบื้องต้นมอบหมายให้ ผอ.สำนักการโยธา ดำเนินการในส่วนนี้ ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เพราะกระบวนการคิดต้องละเอียด โดยการร่วมมือระหว่าง กทม. การไฟฟ้าฯ และตำรวจ

กทม.มีบ่อลักษณะเดียวกัน 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง

สำหรับการขุดบ่อลักษณะนี้ เป็นขั้นตอนการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ทั่วกรุงเทพฯ มีประมาณ 700 บ่อ เฉพาะบนถนนสุขุมวิท มีทั้งหมด 27 บ่อ ส่วนอุบัติเหตุในครั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตไว้ 2 เรื่อง คือ การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือน้ำหนักของรถบรรทุก ซึ่งจากการคำนวณน่าจะบรรทุกมาถึง 45 ตัน แต่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่อไป


ส่วนมาตรการป้องกันปัญหา ไม่อยากให้ตั้งด่านตรวจน้ำหนักบนท้องถนน เพราะส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด ก็จะเน้นไปตรวจสอบที่ไซต์งานก่อสร้างเป็นหลัก ว่ารถบรรทุกที่วิ่งออกมามีการบรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือไม่

วางแผนใช้เครนยกรถบรรทุกออก-นำดินชั่งน้ำหนัก

ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. และนายสุนัน ภัคดีธนวาณิช ผู้จัดการโครงการรับเหมา ย่านสุขุมวิท 81 กล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า บ่อที่เกิดเหตุมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร ลึก 15 เมตร แต่ตัวคานเหล็ก 1 เส้น ที่รองรับระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ มีความยาวเพียง 6 เมตร ทำให้ต้องเอาคานอีกตัวมาเชื่อมต่อให้พอดีบ่อ จึงคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้แผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ 4 แผ่น ที่ปิดปากบ่อทรุดตัวลง ซึ่งต้องไปคุยกับวิศวกรว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่คนขับมีความผิดเรื่องบรรทุกน้ำหนักเกินแน่นอน

ส่วนการแก้ไขจะนำเครน 100 กิโลกรัม มายกรถบรรทุกออก พร้อมดินที่อยู่บนรถ และจะนำรถเครื่องชั่งมาชั่งรถบรรทุกด้วยว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ จากนั้นจะนำคานเหล็กมาซ่อมแซม โดยครั้งนี้จะใช้เพิ่มเป็น 2 คานเหล็กวางคู่กัน และจะเอาหัวเชื่อมวางไขว้กัน

ด้านคนขับรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุ เล่าว่า ตนเองขับออกมาจากไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 64/2 เพื่อบรรทุกดินไปยังปริมณฑล ขับออกมาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ แผ่นคอนกรีตบริเวณล้อหลังก็ทรุดตัวลง ทำให้หน้ารถลอยขึ้น ตนเองตกใจจึงรีบลงจากรถ และเห็นว่ารถแท็กซี่ที่ขับตามหลังมาเสียหาย 1 คัน ส่วนไรเดอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ ตนไม่เห็น

ปิดจราจรยาวกว่า 1.8 กม. ผู้รับเหมาเสนอยกรถเอง

ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ กทม.จะนำเครนมายกรถบรรทุกออก ผู้รับเหมาเจ้าของรถบรรทุกไม่ยอม เพราะกลัวว่ารถจะพัง และเสนอจะดำเนินการยกรถบรรทุกเอง จากนั้นก็นำรถเครนมายกด้านหน้ารถบรรทุก

ขณะที่การจราจรบนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า มีการปิดถนนตั้งแต่บริเวณแยกสุขุมวิท 101/1 ไปจนถึงแยก 64/2 ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร และเปิดช่องทางพิเศษฝั่งขาออก 1 ช่องทางจราจรแทน

ไม่เหมือนที่คุยกันไว้! ผู้รับเหมาไม่ยอมชั่งน้ำหนักดิน

จากนั้นผู้รับเหมาได้นำรถแบ็กโฮมาทยอยตักดินจากรถบรรทุก ถ่ายไปยังรถอีกคัน แล้วก็ให้ขับนำดินไปเททิ้งที่ไซต์งาน ซึ่งไม่เหมือนกับที่ได้ตกลงกันไว้ว่า เมื่อผู้รับเหมานำดินออกมาจะต้องให้เจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนัก ก่อนจะนำไปเท แต่ผู้รับเหมากลับนำดินไปเทคืนที่ไซต์งานเลย ทำให้ไม่ทราบว่า สรุปแล้วบรรทุกดินมาจำนวนเท่าไร ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง บอกว่า จากที่เข้าไปคุยกับผู้รับเหมา ก็คุยไม่รู้เรื่อง พูดเพียงว่าให้นำทนายความมาคุยอย่างเดียว

ชาวบ้านร้อง 2 บริษัทรับเหมา ทำถนนร้าว-รั้วพัง

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 นำภาพถนนมีรอยร้าวมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ในซอยแห่งนี้มี 2 บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง โดยเมื่อ 9 เดือนก่อน รถบรรทุกขนดินก็บรรทุกน้ำหนักเกิน จนเป็นเหตุให้แนวรั้วที่อยู่ในซอยพังลงมา และถนนมีรอยร้าว ท่อประปาแตก ประสบความเดือดร้อน จากที่เมื่อก่อนชาวบ้านเคยอยู่กันอย่างสงบสุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ